สมาคมประกันชีวิตไทยคาดว่าอุตสาหกรรมประกันชีวิตของประเทศจะเติบโตที่อัตรา 4%-6% ในปี 2561 เทียบกับอัตราการเติบโตของปี 2560 ที่ 5.9% ทั้งนี้การประมาณการดังกล่าวได้พิจารณาถึงโอกาสที่เบี้ยประกันรับอาจลดลงเนื่องจากการประกาศใช้ตารางมรณะฉบับใหม่แล้ว ฟิทช์เชื่อว่าอุตสาหกรรมประกันชีวิตในประเทศไทยจะยังคงมีการเติบโตในผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนและประกันชีวิตแบบบำนาญในระดับสูง ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสามัญจะยังคงเป็นแบบประกันชีวิตหลักที่สนับสนุนอัตราการเติบโตโดยรวมของอุตสาหกรรมต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยมีอัตราการทำประกันชีวิตที่ยังไม่สูงนัก ดังนั้นบริษัทประกันชีวิตยังสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้นให้กับลูกค้าปัจจุบันเพิ่มเติมได้
พันธมิตรทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นในด้านการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านช่องทางธนาคารนั้นน่าจะช่วยเพิ่มเบี้ยประกันภัยรับได้ แต่ก็อาจถูกจำกัดโดยภาวะธุรกิจของอุตสาหกรรมธนาคารที่มีแนวโน้มที่จะพึ่งพาช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันนี้ ฟิทช์ยังคาดการณ์ว่าช่องทางตัวแทนขายประกันชีวิตจะยังขยายตัวและเป็นช่องทางขายที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีเบี้ยประกันสูงและผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน
ฟิทช์คาดว่าบริษัทประกันชีวิตไทยจะยังคงดำเนินนโยบายด้านการลงทุนอย่างระมัดระวังโดยพิจารณาระหว่างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้นและเงินกองทุนที่อาจต้องดำรงเพิ่มขึ้นภายใต้เกณฑ์การดำรงเงินกองทุนฯ ระยะที่สอง (RBC2) ที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ฟิทช์ยังอยู่ระหว่างการติดตามผลการจัดการผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทประกันชีวิตไทยภายหลังการประกาศใช้ตารางมรณะใหม่เมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 ที่ผ่านมา
รายงานเรื่อง "Thailand Life Insurance Market Dashboard 2018" สามารถดูได้จาก www.fitchratings.com