เคเอฟซี ยืนยันทุกเมนูปลอดไขมันทรานส์

อังคาร ๑๗ กรกฎาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๑๙
สืบเนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่ายอาหารที่มีไขมันทรานส์ ลงราชกิจจานุเบกษา ประกาศเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 180 วัน ทำให้เกิดกระแสความเป็นห่วงเกี่ยวกับอาหารในร้านอาหารบริการด่วนว่าอาจจะมีไขมันทรานส์อยู่ในอาหารในปริมาณมากกว่ากฎหมายกำหนดนั้น

เคเอฟซี ประเทศไทย ในฐานะร้านอาหารบริการด่วนที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย ขอยืนยันว่าเมนูอาหารทุกเมนูที่จำหน่ายในร้านเคเอฟซี ประเทศไทย ปลอดจากไขมันทรานส์ 100% โดยเคเอฟซี ประเทศไทย ได้ดำเนินตามนโยบายบริษัทแม่ในประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัท ยัม! แบรนด์ ในการยกเลิกการจำหน่ายอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์มาตั้งแต่ปี 2015 โดยได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าผู้จำหน่ายวัตถุดิบทุกรายในการเลิกใช้ส่วนผสมที่สามารถทำให้เกิดไขมันทรานส์ออกไป นอกจากนี้ เคเอฟซี ประเทศไทย ยังใช้น้ำมันปาล์มซึ่งเป็นน้ำมันที่ไม่มีไขมันทรานส์ในการประกอบอาหารเมนูไก่ทอดและเมนูอื่นๆ ของร้าน และขอยืนยันว่าทุกเมนูของเคเอฟซีไม่มีการเติมส่วนผสมพิเศษใดๆ อันทำให้เกิดไขมันทรานส์ ลูกค้าเคเอฟซีจึงสามารถไว้วางใจได้ว่าร้านเคเอฟซีทุกร้านเสิร์ฟเมนูที่ปลอดภัยปราศจากไขมันทรานส์อย่างแน่นอน

ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจมากกว่า 33 ปีในประเทศไทย เคเอฟซีให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารที่บริการให้แก่ลูกค้า เราดำเนินการตามมาตรฐานด้านคุณภาพและอาหารปลอดภัยระดับโลกเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารที่ผลิตขึ้นมีความสะอาด อร่อย และปลอดภัย สร้างความไว้วางใจและพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ

ขอแสดงความนับถือ

แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล ผู้จัดการทั่วไป เคเอฟซีประเทศไทย

บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไขมันทรานส์ มี 2 ประเภท

(ที่มาข้อมูล: https://www.nstda.or.th/th/nstda-knowledge/1788-trans-fat)

1. ไขมันทรานส์ตามธรรมชาติ : พบได้ในปริมาณเล็กน้อยตามธรรมชาติในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์และนม สัตว์เหล่านี้จะผลิตไขมันทรานส์ในกระเพาะและลำไส้

2. ไขมันทรานส์จากการสังเคราะห์ : เกิดจากการสังเคราะห์ระหว่างกระบวนการผลิตอาหาร โดยเกิดจากกระบวนการเติมไฮโดรเจน (hydrogenation) เข้าไปในน้ำมันพืช ทำให้น้ำมันพืชแข็งตัวมากขึ้น PHOs ใช้โดยผู้ผลิตอาหารเพื่อยืดอายุอาหารและเพิ่มความคงตัวของรสชาติ มีอาหารหลายชนิดใช้ PHOs (ไขมันทรานส์) เป็นส่วนประกอบ เช่น เนยขาว (shortenings) มาการีน (โดยเฉพาะมาการีนที่แข็งตัวมากขึ้น) คุกกี้ อาหารว่าง (snack foods) อาหารทอด และขนมอบ ไขมันทรานส์เหมือนไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลทำให้ระดับ LDL สูงขึ้นในเลือด ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ แต่ไขมันทรานส์เพิ่มความร้ายกาจเป็นสองเท่าเนื่องจากยังลดระดับ HDL (คอเลสเตอรอลชนิดดีต่อสุขภาพ) ในเลือดอีกด้วย ทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจเพิ่มขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5