กระทรวงเกษตรฯ เตรียมเสนอร่างประกาศควบคุมผลิตสารเคมี ดันเป็นกฎหมายคุ้มครองยกระดับความปลอดภัยครอบคลุมทั้งผู้บริโภค แรงงานในโรงงาน

พฤหัส ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ๑๔:๔๘
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบาย และดำเนินการใช้หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบสถานที่ผลิต วัตถุอันตรายตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการผลิต การนำเข้า การส่งออก และการมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุอันตรายที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ พ.ศ. 2547 นั้น เพื่อให้การผลิตและเก็บรักษาวัตถุอันตรายมีมาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคสามและมาตรา 20 (1) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับ ที่ 4) พ.ศ. 2562 มาตรา 20 (2) และมาตรา 20/1 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ...) พ.ศ. 2551
กระทรวงเกษตรฯ เตรียมเสนอร่างประกาศควบคุมผลิตสารเคมี ดันเป็นกฎหมายคุ้มครองยกระดับความปลอดภัยครอบคลุมทั้งผู้บริโภค แรงงานในโรงงาน

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมวิชาการเกษตร จึงได้พิจารณายกร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการผลิต การนำเข้า การส่งออก และการมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุอันตรายที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ขึ้น โดยมีสาระสำคัญของร่างประกาศ คือ กำหนดให้สถานที่ผลิตวัตถุอันตรายต้องได้การรับรองระบบมาตรฐานบริหารคุณภาพ ISO 9001 ได้รับการรับรองระบบมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 และมีห้องปฏิบัติการซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานISO/IEC17025 ด้านการวิเคราะห์วัตถุอันตราย จากสถาบันการตรวจรับรองมาตรฐาน โดยหน่วยงานมาตรฐานในประเทศไทย ยกเว้นสถานที่ผลิตสารชีวภัณฑ์ และสารสกัดจากพืช สถานที่ผลิตวัตถุอันตราย ที่ผู้ประกอบการได้รับอนุญาตให้ดำเนินการผลิตวัตถุอันตรายอยู่ก่อนแล้ว ให้ระยะเวลาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเป็นระยะเวลาอีก 2 ปี นับแต่วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ไม่รวมถึงสถานที่ผลิตวัตถุอันตราย ที่ผู้ประกอบการได้รับอนุญาตให้ดำเนินการผลิตวัตถุอันตรายที่ถูกจำกัดการใช้ ซึ่งในการป้องกันอันตรายผู้ปฏิบัติงานนั้น กำหนดให้มีการตรวจสุขภาพผู้ปฏิบัติงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายจากการมี

วัตถุอันตรายสะสมอยู่ในร่างกาย ถ้าผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับวัตถุอันตรายที่มีสารประกอบในกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟสหรือคาร์บาเมต ต้องตรวจหาระดับซีรัมโคลีนเอสเตอเรสด้วย พร้อมจัดทำทะเบียนประวัติสุขภาพ ของผู้ปฏิบัติงานและหากตรวจพบวัตถุอันตรายสะสมในร่างกายจนถึงระดับอันตราย ต้องจัดให้ผู้นั้นได้รับการรักษาหรือไปปฏิบัติงานอื่นตามความเหมาะสม

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำการรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศกระทรวงผ่านทางเว็บไซต์ ของกรมระหว่างวันที่27 มกราคม 2563 ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2563 รวม 15 วัน

ผลการแสดงความคิดเห็น

- มีผู้ให้ความเห็น 10,258 คน

- เกือบทั้งหมด 9,590 คน = 93.49% เห็นด้วย มีเพียง 668 ราย(6.51 %) ไม่เห็นด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๒ นศ.มทร.ธัญบุรี คว้ารางวัลชนะเลิศนวัตกรรมด้านแบตเตอรี่
๑๓:๓๖ PIMO-ไพโม่ ปักธง!! ผลิตม่านอากาศ-ม่านตัดอากาศ
๑๓:๕๙ Kind Jugend ASEAN 2024 มหกรรมสินค้าแม่และเด็กแห่งอาเซียน งานแรกและงานเดียวรวมนวัตกรรมสุดล้ำจากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 300
๑๓:๐๙ บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด ฉลองครบรอบ 30 ปี ของการดำเนินธุรกิจสินเชื่อรายย่อยในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด ขับเคลื่อนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า Ride for
๑๓:๓๑ เปิดตัว TITAN MINIMAL ART 2024 COLLECTION กับแบรนด์ Silhouette สุดยอดนวัตรกรรมจากประเทศออสเตรีย
๑๓:๔๗ JT Express Thailand แชร์เรื่องราวสุดประทับใจ 'บอย' ศุภโชค เมฆกิจ ชายผู้เป็นเบื้องหลังส่วนหนึ่งความสำเร็จ JT Behind Your
๑๓:๔๗ C.M.S. Korea Trade จัดงาน Chungbuk Food Exhibition Trade Fair 2024 ในวันที่ 4 - 5 มิถุนายน 2567 @ Swissotel Bangkok
๑๓:๓๑ โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต
๑๓:๕๗ FTI เปิดเกมลุย! ดันผลงานโตไม่หยุด
๑๓:๕๓ โฮมโปร x เมกาโฮม ทุ่ม 300 ล้านบาท เปิดตัวโมเดลไฮบริด 'ครบ จบ เรื่องบ้าน x งานช่าง' จ. อุดรธานี เพิ่มความหลากหลายรองรับตลาดอีสานเหนือโตต่อเนื่อง