แลนเซสส์ (LANXESS) บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2019 แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

พุธ ๒๕ มีนาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๒๙
แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษประกาศความสำเร็จในการดำเนินงานของปีการเงิน 2019 แม้จะเผชิญสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดย EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์เป็น 1.019 พันล้านยูโร ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง 1 พันล้านยูโรถึง 1.05 พันล้านยูโรตามที่ได้เคยแจ้งการประมาณการณ์ไว้ ส่วนปีการเงิน 2018 ที่ผ่านมาบริษัทมี EBITDA ที่ 986 ล้านยูโร
แลนเซสส์ (LANXESS) บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2019 แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

สำหรับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งเป็นของกลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) กลุ่มธุรกิจสารเติมแต่งชนิดพิเศษ (Specialty Additives) และกลุ่มธุรกิจสารเคมีประสิทธิภาพสูง (Performance Chemicals) เข้ามาชดเชยรายได้ที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ลดลง และได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้เปรียบโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติของทั้งปีสูงถึง 15 เปอร์เซ็นต์นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัทเทียบกับ 14.4 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว

“ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากในปี 2019 เราต้องยืนหยัดสู้กับการทดสอบจริงเป็นครั้งแรกหลังจากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ แต่แลนเซสส์กลับสามารถทำกำไรได้มากขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าเดิม” คุณแมตเธียส แซกเชิร์ต (Matthias Zachert) ประธานคณะผู้บริหารของ LANXESS AG กล่าว “ แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้เรายังสามารถเพิ่มอัตรากำไรของเราจนสร้างสถิติใหม่และสร้างความแข็งแกร่งให้ฐานทางการเงินของเรา สำหรับโครงการการเติบโตใหม่ในปี 2020 เราจะทุ่มเทให้กับธุรกิจในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคที่มีอัตรากำไรสูงและแสวงหาธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะในตลาดเทคโนโลยีแบตเตอรี่”

ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2562 หน่วยธุรกิจเครื่องหนัง (Leather Business) ถูกยกเลิกการดำเนินงานอย่างเป็นทางการ โดยยอดขายและกำไรจากการดำเนินงานและตัวเลขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกันของหน่วยธุรกิจนี้จะได้รับการปรับปรุงใหม่ในรายงานทางการเงินของปีก่อนแล้ว ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการปรับองค์กรเชิงกลยุทธ์ บริษัทมีความตั้งใจที่จะขายหน่วยธุรกิจนี้ นอกจากนี้แลนเซสส์ยังได้จำหน่ายธุรกิจเคมีภัณฑ์โครเมี่ยมและผลประโยชน์จากเหมืองแร่โครเมี่ยมออกไปแล้วในปี 2019 (พ.ศ. 2562)

สำหรับยอดขายทั้งกลุ่มแลนเซสส์อยู่ที่ 6.802 พันล้านยูโร ซึ่งตัวเลขใกล้เคียงกับปีที่แล้ว (6.824 พันล้านยูโร) ส่วนรายได้สุทธิจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 240 ล้านยูโร ลดลง 14.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 282 ล้านยูโร เนื่องจากมีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษในการปรับองค์กรธุรกิจเคมีโลหอินทรีย์ (Organometallics)

เพิ่มปันผลให้ผู้ถือหุ้น

ในปีการเงิน 2019 ผู้ถือหุ้นของแลนเซสส์จะได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยคณะกรรมการฝ่ายจัดการและกำกับดูแลจะเสนอเงินปันผลที่ 0.95 ยูโรต่อหุ้นในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ.2563 ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 6%

กลุ่มธุรกิจใหม่ : กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภค (Consumer Protection)

ในแผนการเติบโตทางธุรกิจ แลนเซสส์จะมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคให้มากขึ้น ดังนั้นจึงปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจใหม่ให้มีผลในทันที โดยรวมหน่วยธุรกิจซอลทิโก (Saltigo), หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีผลิตของเหลวให้บริสุทธิ์ (Liquid Purification Technologies) และหน่วยธุรกิจวัสดุเพื่อการป้องกัน (Material Protection Products) เข้าเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ในชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภค (Consumer Protection) ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มนี้จะรวมถึงส่วนผสมที่ใช้งานสำหรับอุตสาหกรรมการเกษตรและยาสำหรับยาไล่แมลงและยาฆ่าเชื้อรวมถึงเทคโนโลยีสำหรับการแปรรูปและการทำความสะอาดน้ำ

“กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคของเรานั้นโดดเด่นด้วยอัตราการเติบโตที่มีความมั่นคงและน่าสนใจ ในขณะเดียวกันเรามีความเชี่ยวชาญอย่างยาวนานหลายปีในตลาดที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดนี้ ทำให้เราได้เปรียบทางการแข่งขันค่อนข้างสูง" คุณแมตเธียส แซกเชิร์ตกล่าว

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ปกป้องผู้บริโภคจะเข้ามาแทนที่กลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) ในเวลาเดียวกันหน่วยธุรกิจผงสีอนินทรีย์ (Inorganic Pigments) จะถูกย้ายไปเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) โดยรายงานทางการเงินจะถูกปรับให้เหมาะสมตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีการเงิน 2020 (พ.ศ.2563)

โครงการลิเทียม : การทดสอบโรงงานนำร่อง

สำหรับโครงการจัดตั้งโรงงานสกัดลิเทียมคุณภาพสำหรับแบตเตอรี่ (Battery-grade Lithium) ในเชิงพาณิชย์ที่เมืองเอลโดราโด มลรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแลนเซสส์เป็นผู้ริเริ่ม โดยร่วมทำงานกับพาร์ทเนอร์ได้แก่บริษัท สแตนดาร์ดลิเทียม ที่นี่แลนเซสส์มีโรงงานผลิตโบรมีนอยู่แล้ว 3 แห่ง ซึ่งโบรมีนนี้ได้มาจากการสกัดน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของลิเทียมอยู่ด้วย โดยบริษัทสแตนดาร์ดลิเทียมได้พัฒนากรรมวิธีใหม่ที่เป็นนวัตกรรมในการสกัดลิเทียมให้มีความบริสุทธิ์สูงโดยตรงจากน้ำเกลือ การตั้งโรงงานนำร่องที่นี่เริ่มดำเนินการและควบคุมการทดสอบเมื่อต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ขณะนี้มีความก้าวหน้าค่อนข้างมาก แลนเซสส์คาดว่าจะประเมินความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีครั้งแรกภายในกลางปี 2563

ภาพรวมปีการเงิน 2020 : การดำเนินงานค่อนข้างมีเสถียรภาพ แต่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) บ้าง

แลนเซสส์ได้คาดการณ์ว่าในปีการเงิน 2020 การดำเนินธุรกิจจะยังคงมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) จะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมทั้งปีประมาณ 50 ล้านยูโรถึง 100 ล้านยูโรต่อปี แลนเซสส์จึงคาดว่า EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติจะอยู่ที่ประมาณ 900 ล้านยูโรถึง 1 พันล้านยูโร โดยไตรมาสแรกของปี 2020 แลนเซสส์ได้คาดการณ์ว่าบริษัทน่าจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ประมาณ 20 ล้านยูโร

รายละเอียดของผลประกอบการปี 2019 : 3 ใน 4 ของกลุ่มธุรกิจมีผลกำไรสูงขึ้น

กลุ่มธุรกิจสารตัวกลางขั้นสูง (Advanced Intermediates) มีผลประกอบการโดยรวมในปี 2019 สูงกว่าปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยธุรกิจซอลทิโกมีความแข็งแกร่งมากในภาคการเกษตรและได้รับผลกระทบเชิงบวกจากอัตราแลกเปลี่ยนแม้ว่าจะต้องปรับราคาลงเนื่องจากได้รับผลกระทบเชิงลบจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง แต่ยอดขายกลับเพิ่มขึ้น 1.9% อยู่ที่ 2.249 พันล้านยูโรเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขของปีที่แล้วที่ 2.207 พันล้านยูโร EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 8.4% จาก 359 ล้านยูโรเป็น 389 ล้านยูโร ส่วน EBITDA Margin จากการดำเนินตามปกติได้ปรับตัวสูงขึ้นจาก 16.3% เป็น 17.3%

กลุ่มสารเติมแต่งพิเศษ (Specialty Additives) ปิดปีการเงิน 2019 ได้ด้วยความสำเร็จ แม้ว่าความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์จะลดลงและมีการยกเลิกสัญญาการผลิตที่มีผลกำไรต่ำ (low-profit contract-manufacturing agreements) แต่กลับได้รับอานิสงส์จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้เปรียบและธุรกิจในหน่วยธุรกิจสารเติมแต่งโพลิเมอร์ (Polymer Additives Business) ที่แข็งแกร่ง ทำให้ยอดขายรวมอยู่ที่ 1.965 พันล้านยูโรใกล้เคียงกับปีก่อน (1.980 พันล้านยูโร) EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติปรับตัวดีขึ้น 2.9% เป็น 353 ล้านยูโรเมื่อเทียบกับ 343 ล้านยูโรในปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้รับผลดีจากการลดต้นทุนการประกอบการในกิจการที่รวมกัน (cost synergies) จากการผนึกรวมธุรกิจของบริษัทเคมทูรา (Chemtura) โดย EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นเป็น 18% จาก 17.3% ในปีที่แล้ว

กลุ่มธุรกิจสารเคมีประสิทธิภาพสูง (Performance Chemicals) ได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งในการดำเนินงานของหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำและป้องกันวัสดุ และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนในเชิงบวก ทำให้ยอดขายและกำไรปี 2019 เพิ่มมากขึ้น โดยมียอดขาย 1.052 พันล้านยูโรเพิ่มสูงขึ้นเป็น 7.8% จากปีที่แล้วที่มียอดขาย 976 ล้านยูโร EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 23.1% จาก 156 ล้านยูโรเป็น 192 ล้านยูโร และมี EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นจาก 16.0% เป็น 18.3% ถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2562 หน่วยธุรกิจเครื่องหนังได้ยกเลิกการดำเนินงานอย่างเป็นทางการ ดังนั้นหน่วยธุรกิจดังกล่าวจึงไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจนี้อีกต่อไป ซึ่งตัวเลขของปีก่อนได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน

กลุ่มธุรกิจวัสดุวิศวกรรม (Engineering Materials) ยังคงได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ลดลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ และได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากได้เปรียบในอัตราแลกเปลี่ยนที่ ขณะเดียวกันยอดขายได้ปรับตัวลดลงตามราคาขายที่ลดลง เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบลดลง 8% โดยมียอดขายลดลงจาก 1.576 พันล้านยูโรในปีก่อนหน้าเป็น 1.45 พันล้านยูโรในปี 2019 EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 238 ล้านยูโร ลดลง 10.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 267 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม EBITDA Margin จากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 16.4% ซึ่งตัวเลขต่ำกว่าปีที่แล้วเพียงเล็กน้อยที่ 16.9%

แลนเซสส์เป็นบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) มียอดรายได้รวมกว่า 6.8 พันล้านยูโรในปี 2019 และมีพนักงาน 14,300 คน อยู่ใน 33 ประเทศทั่วโลก โดยแลนเซสส์มีธุรกิจหลัก คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (Chemical Intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (Additives Chemicals) ผลิตภัณฑ์สารเคมีชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) และพลาสติก แลนเซสส์ยังเป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World and Europe) และ FTSE4Good

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lanxess.com

แลนเซสส์ (LANXESS) บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2019 แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหกรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5