เอ็นไอเอ ร่วมทีเซลส์ และเครือโรงพยาบาลพญาไท – เปาโล ลุยเดินหน้าระบบ “ฐานข้อมูลผู้ป่วย - นวัตกรรมเฮลธ์แคร์” ย่านโยธี

พฤหัส ๑๑ มิถุนายน ๒๐๒๐ ๑๕:๕๖
เอ็นไอเอ ร่วมทีเซลส์ และเครือโรงพยาบาลพญาไท – เปาโล ลุยเดินหน้าระบบ “ฐานข้อมูลผู้ป่วย - นวัตกรรมเฮลธ์แคร์” ย่านโยธี ตั้งเป้าสู่ย่านการแพทย์เบอร์หนึ่งของเซาท์อีสท์เอเชีย
เอ็นไอเอ ร่วมทีเซลส์ และเครือโรงพยาบาลพญาไท เปาโล ลุยเดินหน้าระบบ ฐานข้อมูลผู้ป่วย - นวัตกรรมเฮลธ์แคร์ ย่านโยธี

- ครั้งแรก!! เอ็นไอเอ ร่วมรพ.เอกชน ส่งต่อนวัตกรรม – บุคลากรชั้นนำสู่ย่านการแพทย์โยธี พร้อมปักธงโรงพยาบาลเชื่อมฐานข้อมูล หวังรักษาผู้ป่วยได้รวดเร็วขึ้น

NIAร่วมมือกับTCELS และรพ.ในเครือพญาไท-เปาโลยกระดับนวัตกรรมย่านการแพทย์โยธีให้เป็นศูนย์การแพทย์ที่ดีที่สุดในเอเชียอาคเนย์

#nia #yothi #innovation #ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี #สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ #JCCOTH

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS และโรงพยาบาลในเครือพญาไท-เปาโล ขับเคลื่อนแผนพัฒนาย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี (Yothi Medical Innovation district : YMID) ตั้งเป้ายกระดับย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธีให้เป็นย่านการแพทย์ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้น 4 เรื่อง ได้แก่ 1) การส่งเสริมให้เกิดศักยภาพการให้บริการที่มีนวัตกรรมของโรงพยาบาลในย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี 2) การร่วมกันพัฒนา DeepTech Startup ด้านชีวการแพทย์ และเทคโนโลยีชีวภาพ 3) การร่วมสร้างองค์กรนวัตกรรม และ 4) การร่วมมือพัฒนาย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี นอกจากนี้ ทีเซลส์ยังจะมีการสนับสนุนการทำบิ๊กดาต้า เกี่ยวกับข้อมูลเกี่ยวกับระบบการแพทย์ ข้อมูลการแพ้ยา และข้อมูลสุขภาพ เพื่อช่วยให้การรักษาผู้ป่วยทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ทางด้านเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล จะนำองค์ความรู้และความเป็นเลิศทางด้านการแพทย์ บุคลากรชั้นนำมาช่วยสนับสนุนงานวิจัย และพัฒนานวัตกรรมการแพทย์สมัยใหม่ที่สามารถขยายผลสู่เชิงพาณิชย์

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “NIA ได้ลงนามความร่วมมือกับ TCELS และ เครือโรงพยาบาลพญาไท - เปาโล เพื่อยกระดับย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี ให้เป็นย่านนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีโรงพยาบาลในเครือเอกชนเข้ามาร่วมพัฒนาย่านนวัตกรรมโยธี ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมการแพทย์ การคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ โดยมีเป้าหมายในการยกระดับความรู้ความสามารถของบุคลากร ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการวิจัยและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน ซึ่งนับเป็นการวางรากฐานและสร้างต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ของไทยให้มีศักยภาพที่เข้มแข็งทัดเทียมกับการแข่งขันระดับโลก โดยจะมุ่งเน้นความร่วมมือใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่

- การส่งเสริมให้เกิดศักยภาพการในการบริการที่มีนวัตกรรมของโรงพยาบาลภายในย่านโยธีจากความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งด้านการวิจัย และการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างโรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

- การร่วมกันพัฒนา DeepTech Startup ทางด้านชีวการแพทย์ และเทคโนโลยีชีวภาพ รวมทั้งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเชิงลึกผ่านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูล(DATA) ซึ่งทั้งปัจจุบันและในอนาคต นวัตกรรมเหล่านี้จะเป็นที่ต้องการอย่างมากในวงการการแพทย์

- การร่วมสร้างองค์กรนวัตกรรม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมผ่านการดึงเอาสตาร์ทอัพ กลุ่มวิจัยต่าง ๆ เข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างให้ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธีเป็นย่านนวัตกรรมที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

- การร่วมมือพัฒนาย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี ด้วยการผลักดันให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพ นักวิจัย รวมถึงธุรกิจเอกชน ซึ่งจะช่วยให้มีการเรียนรูปแบบการทำงาน รูปแบบธุรกิจ (Business Model) และแนวคิดต่าง ๆ ระหว่างกัน ส่งผลให้การทำงานเกิดการนำสิ่งแปลกใหม่มาประยุกต์ และเกิดเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับแผนการดำเนินงานพัฒนาย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธีแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะ 5 ปีแรก จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมและการวิจัยที่มีศักยภาพสูง สอดคล้องกับมาตรการและนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ ระยะ 10 ปี จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเชิงกายภาพให้กับพื้นที่เพื่อส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และทดลองนวัตกรรม และการสร้างโครงข่ายสัญจรเชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานภายในพื้นที่อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ และระยะ 20 ปี จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเชิงกายภาพรองรับและสนับสนุน ดร.พันธุ์อาจ กล่าวสรุป

ด้าน ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) กล่าวว่า สิ่งที่อยากเห็นหลังจากการร่วมมือของทั้ง 3 หน่วยงานคือ การเชื่อมโยงข้อมูลของโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชนในย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี และการรวบรวมข้อมูลในด้านการรักษาสุขภาพ (Health Care ) ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับระบบการแพทย์ เช่น ข้อมูลการแพ้ยา หรือข้อมูลสุขภาพต่างๆ เพื่อช่วยให้การรักษาผู้ป่วยทำได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของผู้ใช้งาน ซึ่งในอนาคตนวัตกรรมด้านสุขภาพจะมีบทบาท และมีแนวโน้มการเติบโตมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทีเซลส์พร้อมที่จะสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ในย่านโยธีให้มีประสิทธิภาพ และเป็นพื้นที่ที่ครบครันสำหรับให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้ ยังมีโครงการวิจัยใหม่ ๆ เพื่อสร้างความรู้และนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยหุ่นยนต์ทางการแพทย์ การพัฒนาระบบ AI ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพรยาแผนโบราณ รวมถึงงานวิจัยและพัฒนาทางด้านการแพทย์แม่นยำบนฐานของรหัสพันธุกรรมมนุษย์ หรือ Genomics ทั้งนี้ เชื่อว่าหากภาคเอกชนมีความเข้มแข็งก็จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมการแพทย์ในประเทศเติบโตและยั่งยืน และส่งต่อสิ่งดี ๆ สู่ผู้บริโภคในลำดับต่อไป

ด้านนายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล กล่าว่า ขณะนี้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติถึงคุณภาพการจัดการด้านสาธารณสุขและการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน และมีข้อได้เปรียบจากอัตราค่าบริการรักษาพยาบาลเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานยังถือว่าถูกกว่าประเทศอื่นมาก อีกทั้งภาครัฐยังมีนโยบายสนับสนุนการเติบโตของการแพทย์ไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ จึงทำให้ผู้ป่วยชาวต่างชาตินิยมเดินทางมารักษาตัวในประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างของทั้ง 3 ภาคีนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่สถาบันและหน่วยงานทางการแพทย์และสุขภาพของภาคเอกชนและภาครัฐจะช่วยผลักดันและขับเคลื่อนวงการแพทย์และสุขภาพ ภายใน“ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี” ให้เป็นพื้นที่นวัตกรรมทางการแพทย์สมัยใหม่สู่การเป็นศูนย์กลางการรักษาและการพัฒนานวัตกรรมสุขภาพต้นแบบของประเทศ และเป็นพื้นที่นวัตกรรมทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต โดยเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล จะมีบทบาทสำคัญในการเตรียมนำองค์ความรู้และความเป็นเลิศทางด้านการแพทย์ บุคลากรชั้นนำ เพื่อพัฒนาและสนับสนุนนักวิจัย และยกระดับขีดความสามารถบุคลากรสู่ความเป็นนวัตกรชั้นนำทางด้านพัฒนานวัตกรรมสมัยใหม่ที่สามารถขยายผลสู่เชิงพาณิชย์ได้ โดยเตรียมสร้างหลักสูตรในเรื่องของ Medical Knowledge เพื่อพัฒนาและผลิตนวัตกรคุณภาพสู่วงการแพทย์ไทย ที่มีศักยภาพการแข่งขันรองรับการก้าวสู่การเป็นผู้นำทางการแพทย์และสุขภาพของประเทศไทยในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-017-5555 เว็บไซต์ www.nia.or.th และ facebook.com/NIAThailand

เอ็นไอเอ ร่วมทีเซลส์ และเครือโรงพยาบาลพญาไท เปาโล ลุยเดินหน้าระบบ ฐานข้อมูลผู้ป่วย - นวัตกรรมเฮลธ์แคร์ ย่านโยธี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหกรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5