ชุมชนบึงบางซื่อตื้นตันได้บ้านใหม่ นายกชื่นชม ชุมชนสามัคคี มีวินัย ออมเงินสร้างบ้าน ชูเป็นต้นแบบชุมชนเมืองเข้มแข็ง

จันทร์ ๑๔ กันยายน ๒๐๒๐ ๑๑:๐๘
ชาวบ้านบึงบางซื่อตื้นตันได้บ้านใหม่ พร้อมทะเบียนบ้าน มีน้ำ-ไฟ สัญญา จะพัฒนาเป็นสวนเกษตรอินทรีย์กลางกรุง และบึงน้ำเป็นแก้มลิงและปอดให้คนเมือง นายกชื่นชม ชุมชนสามัคคี มีวินัยออมเงินสร้างบ้าน ยกให้เป็นต้นแบบชุมชนเมืองเข้มแข็ง ขอบคุณภาครัฐ-เอกชน ที่สร้างกระบวนการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมให้ชุมชนพึ่งพาตนเอง
ชุมชนบึงบางซื่อตื้นตันได้บ้านใหม่ นายกชื่นชม ชุมชนสามัคคี มีวินัย ออมเงินสร้างบ้าน ชูเป็นต้นแบบชุมชนเมืองเข้มแข็ง

นางสาวอัจฉราพร อิ่มโพธิ์ ตัวแทนชุมชนบึงบางซื่อ กล่าวว่า พวกเราอยู่อาศัยรอบบึงบางซื่อมาตั้งแต่เด็ก จนมีครอบครัวของตนเอง ที่นี่มีสภาพเสื่อมโทรม อยู่กันอย่างแออัด มีความกังวลเรื่องความปลอดภัยและอบายมุขต่าง ๆ การไม่มีทะเบียนบ้าน ทำให้เราไม่มีน้ำ-ไฟใช้ ไม่มีสิทธิส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน โครงการนี้ช่วยพลิกฟื้นชีวิตให้เรามีบ้านของตัวเองในสภาพแวดล้อมที่ดี มั่นคง พร้อมกับมีทะเบียนบ้าน มีถนนเข้าบ้านที่ปลอดภัย เชื่อว่าลูกหลานเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

“ขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี เอสซีจี ภาครัฐและเอกชน ที่ช่วยมอบชีวิตใหม่ ให้โอกาสพวกเรามีส่วนร่วมออกแบบบ้านของตนเอง และยังมีบ้านส่วนกลางให้คนสูงอายุที่ไร้อาชีพ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เราออมเงินสร้างบ้าน โดยเราจะดูแลบึงน้ำให้สะอาด ในอนาคตอยากพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรอินทรีย์กลางกรุง เพื่อต่อยอดอาชีพสร้างรายได้ให้กับพวกเรา”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการ “มอบบ้านใหม่ให้ชุมชนบึงบางซื่อ ตามโครงการสานพลังประชารัฐ” ณ พื้นที่บึงบางซื่อ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความฝันของพี่น้องชุมชนบึงบางซื่อเป็นจริง ที่ได้มีบ้านใหม่ที่มั่นคง ปลอดภัย มีสภาพแวดล้อมที่ดี ได้รับทะเบียนบ้าน ทำให้สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐาน และระบบการบริการที่ภาครัฐจัดสรรไว้ให้อย่างเท่าเทียม ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทยด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายไว้อย่างชัดเจน ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง และผู้สูงอายุ มีโอกาสเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มั่นคง

ผมขอชื่นชมชาวชุมชนบึงบางซื่อด้วยใจจริง ที่อดทน อดออม สะสมเงินเพื่อสร้างบ้าน และลุกขึ้นมาร่วมมือร่วมใจกัน น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้พัฒนาชุมชน ทั้งการรักษาระเบียบวินัย กติกาสังคม รวมถึงยังช่วยกันสอดส่องระมัดระวังสิ่งผิดกฎหมาย ดูแลบ้านเรือน พื้นที่ส่วนกลาง ให้สะอาดปลอดภัย เป็นตัวอย่างที่ดีของชุมชนเมืองที่เข้มแข็ง มีความรัก-สามัคคี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ทำให้บ้านเป็นมากกว่าบ้านที่อยู่อาศัย

ขอขอบคุณ เอสซีจี องค์กรพันธมิตร และคณะสานพลังประชารัฐ ที่ได้นำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญมาช่วยกันแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนบึงบางซื่อให้ดีขึ้น ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ การให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มโครงการฯ ทำให้พวกเขามีบ้านที่ตรงกับความต้องการและวิถีชีวิตของตนเอง เป็นหนึ่งใน “ต้นแบบโครงการสานพลังประชารัฐ” และขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าทำโครงการหรือกิจกรรมที่ประสานพลังกันเช่นนี้ เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืน ให้กับประเทศไทยต่อไป”

ด้าน นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า บึงบางซื่อเคยเป็นแหล่งวัตถุดิบผลิตปูนซีเมนต์ของเอสซีจี มีพื้นที่ 61 ไร่ ได้ใช้พื้นที่ขอบบึงทำเพิงพักให้คนงาน จากนั้นได้อาศัยสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งมีคนต่างถิ่นอพยพเข้ามาอยู่ กลายเป็นชุมชนใหญ่ มีสภาพความเป็นอยู่แออัด ในปี 2559 เอสซีจีจึงร่วมกับภาครัฐเอกชน และชุมชน ดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนก่อนที่จะมอบที่ดินผืนนี้ให้กรมธนารักษ์ดูแล เพื่อเป็นหลักประกันให้กับชุมชน

ปัจจุบันการพัฒนาพื้นที่ระยะที่ 1 สำเร็จแล้ว มีที่พักอาศัยรวม 197 ยูนิต ประกอบด้วยทาวน์เฮ้าส์ 60 หลัง ที่ชุมชนเข้าอยู่แล้ว พร้อมบ้านผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังและไม่มีรายได้ 4 ห้อง ส่วนอาคารชุด 4 ชั้น 3 อาคาร รวม 133 ห้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2564

“หัวใจความสำเร็จของโครงการนี้ คือ ชุมชนได้มีส่วนร่วมตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ 1.) การยืนยันสิทธิ์ร่วมโครงการเพื่อความเสมอภาคและเป็นธรรม 2.) สร้างวินัยการออม สะสมเงินเพื่อเป็นเจ้าของบ้าน 3.) ร่วมกันคิดและออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต 4.) กำหนดกฎกติกาการอยู่ร่วมกัน 5.) ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมและความสะอาดของชุมชน ซึ่งผลจากการมีส่วนร่วมทำให้คนในชุมชนปรับเปลี่ยนทัศนคติ มีความเอื้ออาทร ทำเพื่อส่วนรวม เป็นชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งเอสซีจีเชื่อมั่นว่า ชุมชนมีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรอินทรีย์กลางกรุง ดูแลบึงน้ำให้สะอาด สวยงาม รวมถึงเป็นศูนย์เรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนอื่น ๆ ในอนาคต”

สำหรับ นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กล่าวว่า “กรมธนารักษ์มีความรับผิดชอบในการดูแล บำรุงรักษา และพัฒนาที่ราชพัสดุให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่สมดุลและยั่งยืน โดยได้รับมอบที่ดินบึงบางซื่อจากเอสซีจี หลังจากที่มีการพัฒนาเสร็จแล้ว เพื่อนำไปบริหารจัดการและดูแลให้ชุมชนมีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน กรมธนารักษ์เชื่อว่า นอกจากการมีที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม “การพึ่งพาตนเอง” ให้สามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง เป็นเรื่องที่สำคัญ จึงได้ร่วมกับบริษัท ธนารักษ์พัฒนา- สินทรัพย์ จำกัด สนับสนุนงบประมาณสำหรับเป็นกองทุนต่อยอดให้ชุมชนนำไปใช้สร้างอาชีพและเป็นต้นแบบให้กับชุมชนในเมืองพื้นที่อื่นต่อไป”

ขณะที่ นายวิมล ทุ่งทอง ผู้อำนวยการธนาคารออมสินภาค 1 กล่าวว่า “ธนาคารออมสินดำเนิน “กิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การจัดการน้ำ” ภายใต้โครงการธนาคารออมสินเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2561 เพื่อส่งเสริมการจัดการน้ำในประเทศไทยที่มีปัญหาในหลายรูปแบบ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนทั้งความอยู่ดีมีสุข และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนในลักษณะ “การพึ่งตนเอง” สามารถใช้ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2563 ธนาคารออมสินได้คัดเลือก “ชุมชนบึงบางซื่อ” สนับสนุนระบบ ZyclonicTM by SCG นวัตกรรมระบบบำบัดน้ำเสียจากอาคารชุดในชุมชน ให้สามารถนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ พร้อมทั้งสนับสนุนการเลี้ยงปลา การทำแปลงผักสวนครัวระบบน้ำหยด และโรงเรือนเพาะเห็ด สร้างความมั่นคงทางอาหารภายในชุมชน ช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับชุมชน”

โครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง เอสซีจี และภาคีเครือข่ายสานพลังประชารัฐ เพื่อเป็นต้นแบบที่อยู่อาศัยชุมชนเมือง จัดสรรพื้นที่อย่างคุ้มค่า มีพื้นที่ส่วนกลางใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ลงตัวกับทุกวิถีชีวิต กระตุ้นให้เกิดการออมในชุมชน โดยมีผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. สนับสนุนสินเชื่อ เพื่อให้ชุมชนมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้าน สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนับสนุนงบ 200 ล้านบาท ช่วยเติมเต็มให้ชุมชนได้บ้านที่เสร็จสมบูรณ์ มีสวนและพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งมีระบบสาธารณูปโภคที่ครบถ้วน การรถไฟแห่งประเทศไทย อนุญาตให้เช่าใช้ที่ดินเป็นทางเข้า-ออก สำนักงานเขตจตุจักร ประสานความร่วมมือด้านการก่อสร้าง ธนาคารออมสิน สนับสนุนงบ 500,000 บาท พัฒนาอาชีพของชุมชน กรมธนารักษ์ สนับสนุนงบ 200,000 บาทพัฒนาอาชีพและรับมอบดูแลที่ดินจาก เอสซีจี เพื่อเป็นหลักประกันที่มั่นคงต่อชุมชนต่อไป

ชุมชนบึงบางซื่อตื้นตันได้บ้านใหม่ นายกชื่นชม ชุมชนสามัคคี มีวินัย ออมเงินสร้างบ้าน ชูเป็นต้นแบบชุมชนเมืองเข้มแข็ง ชุมชนบึงบางซื่อตื้นตันได้บ้านใหม่ นายกชื่นชม ชุมชนสามัคคี มีวินัย ออมเงินสร้างบ้าน ชูเป็นต้นแบบชุมชนเมืองเข้มแข็ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗ พ.ค. สุรีย์พร คลินิก เปิดตัวตึกสูงที่สุดแห่งวงการคลินิกสถาบันเสริมความงาม ฉลอง 20 ปีความสำเร็จพร้อมยกระดับชูเทคโนโลยีล้ำสมัย Volformer
๑๗ พ.ค. ปตท.สผ. จัดงานประชุม SSHE Forum 2024 ส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน
๑๗ พ.ค. บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) แนะนำ ชุดล็อคประตูกลอนแม่เหล็กไฟฟ้า จากแบรนด์ HIP
๑๗ พ.ค. ซัมซุง อัปเกรดประสบการณ์การชมทุกมหรรมกีฬา ด้วยนวัตกรรม AI TV สุดล้ำ ชัดทุกแมตซ์เหมือนเชียร์ติดขอบสนาม
๑๗ พ.ค. ไทยพาณิชย์ปักหมุดผู้นำดิจิทัลแบงก์ นำ AI เสริมแกร่ง 360 องศา เปิด 3 นวัตกรรม AI ครั้งแรก! สร้างปรากฏการณ์ใหม่กลุ่มสินเชื่อรายย่อย และ Digital
๑๗ พ.ค. หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม
๑๗ พ.ค. DDD โชว์งบ Q1/67 กวาดกำไรทะยาน 317% YoY พร้อมลุยขยายตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์ อัพผลงานปีนี้โตสวย
๑๗ พ.ค. PCC เปิดงบ Q1/67 รายได้โต 14.25% ยอดขายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้า - อุปกรณ์ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เพิ่มขึ้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10%
๑๗ พ.ค. บางจากฯ สานต่อพันธกิจสนับสนุนด้านกีฬาอย่างเป็นมิตรต่อโลก ร่วมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง Olympic Day 2024 Together, For A Better
๑๗ พ.ค. บัตรเครดิต ttb ช้อปคุ้ม อิ่มครบ ได้มากกว่า รับ Magic Gift Voucher รวมมูลค่าสูงสุด 1,500 บาท ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 5