หลอดเลือดหัวใจตีบ โรคร้ายที่อาจมาแบบไม่รู้ตัว

ศุกร์ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๑ ๑๐:๐๗
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ในระยะแรกผู้ป่วยอาจมีอาการเจ็บหน้าอกในขณะออกแรง เมื่อได้พักอาการก็จะหายไป หรือในบางคนอาจมีแค่เพียงอาการเจ็บตรงไหล่หรือกรามอย่างเดียว จนถึงไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้

ภาวะหลอดเลือดตีบสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากไขมันในเลือดสูง ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและหลอดเลือดเสียความยืดหยุ่น ร่วมกับเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดที่มีการสะสมไขมันจนทำให้เกิดลิ่มเลือดขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันจนเสียชีวิตได้

นอกจากจะป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดบุหรี่และความเครียดแล้ว ในโรคที่มีอาการไม่ชัดเจนแบบนี้ หมอบอกเลยว่าอันตรายมาก เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่อาการจะกำเริบ

การตรวจเช็คสุขภาพหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้มาก ในเบื้องต้นจะเป็นการตรวจไขมันในเลือด คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และความยืดหยุ่นของหลอดเลือดด้วยเครื่อง ABI หากพบว่ามีความเสี่ยงแพทย์จะวินิจฉัยให้ตรวจต่อด้วยวิธีวัดการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย (exercise stress test) เพื่อดูว่าเริ่มมีภาวะหัวใจขาดเลือดหรือไม่

อีกหนึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ช่วยให้การตรวจหัวใจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Cardiac MRI) คือความคมชัดของภาพ และประสิทธิภาพในการประเมินการทำงาน รวมทั้งการไหลเวียนเลือดผ่านหัวใจทุกห้องอย่างละเอียด พร้อมวินิจฉัยโรคหัวใจและหลอดเลือดให้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น อย่างมีคุณภาพและความละเอียดสูง การตรวจแบบนี้ไม่เจ็บตัวและไม่ต้องนอนพักที่โรงพยาบาล

แต่หากพบความผิดปกติ แพทย์จะทำการตรวจด้วยการฉีดสีหรือเอ็กซเรย์ความละเอียดสูง เพื่อดูตำแหน่งของเส้นเลือดหัวใจที่อุดตัน และจะทำการรักษาทันทีก่อนที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดเป็นเวลานาน และอาจทำให้เสียชีวิตได้

การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจหากหลอดเลือดตีบตันเพียงบางส่วน แพทย์จะให้การรักษาด้วยยา หากหลอดเลือดตีบถ้ามีแนวโน้มชัดเจนว่าน่าจะใช่ อาจนำไปสู่การใส่สายสวนเข้าไปฉีดสีดูในหลอดลือดหัวใจโดยตรง

ถ้าหลอดเลือดหัวใจตีบน้อย แพทย์ก็อาจจะให้ทานยารักษา แต่ถ้าตีบมากแพทย์ต้องซ่อมหลอดเลือดควบคู่กับการทานยา การซ่อมหลอดเลือดส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็คือ การใส่สายสวนเข้าไปถ่างขยายร่วมกับใช้บอลลูนเข้าไปค้ำยันไว้ให้รอยตีบนั้นหายไป ทำให้เลือดไหลได้สะดวก แต่ไม่ว่าจะมีการซ่อมด้วยบอลลูนหรือไม่ก็ตาม ผู้ป่วยก็ต้องทานยาเพื่อป้องกันไม่ให้มีการตีบเพิ่มขึ้นหรือตีบซ้ำ หลักๆ ยานี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดตะกรันเกิดลิ่มเลือดไปอุดตัน ร่วมกับควบคุมปัจจัยเสี่ยง ก็จะลดโอกาสการตีบซ้ำให้น้อยลง https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/278

ถึงแม้เทคโนโลยีทางการแพทย์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในปัจจุบันนี้ จะมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ช่วยให้สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ง่ายและดียิ่งขึ้น แต่การดูแลตัวเองและการตรวจเช็คสุขภาพหัวใจเป็นประจำ ก็ยังถือเป็นเรื่องสำคัญที่ห้ามละเลยเด็ดขาดใครจะรู้ล่ะครับว่า...แค่การตรวจสุขภาพครั้งเดียว อาจช่วยชีวิตเราไว้ทั้งชีวิตเลยก็ได้นะ

ที่มา: โรงพยาบาลรามคำแหง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๓๑ โรคหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภัยเงียบอันตรายที่พร้อมคร่าชีวิต
๑๓:๕๗ FTI เปิดเกมลุย! ดันผลงานโตไม่หยุด
๑๓:๕๓ โฮมโปร x เมกาโฮม ทุ่ม 300 ล้านบาท เปิดตัวโมเดลไฮบริด 'ครบ จบ เรื่องบ้าน x งานช่าง' จ. อุดรธานี เพิ่มความหลากหลายรองรับตลาดอีสานเหนือโตต่อเนื่อง
๑๓:๕๙ วัดชีพจรตลาดอสังหาฯ อาเซียนปี 67 คนยังอยากมีบ้าน แม้เผชิญอุปสรรค ดอกเบี้ยสูง - ขาดสภาพคล่อง
๑๓:๑๙ ยิบอินซอย ตอกย้ำความสำเร็จคว้ารางวัล Red Hat's CY23 Top Innovation Partner of the year
๑๓:๐๖ ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ กรุ๊ป ส่งโปรแรงกลางปี กับแคมเปญ 5.5 MEGA SALE
๑๓:๒๑ CPF ชูเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ตลอดห่วงโซ่คุณค่า
๑๓:๔๙ PDPC เผย 3 ช่องทาง เปิดกว้างประชาชนเคลียร์ทุกข้อสงสัย PDPA หลังตอบข้อหารือแล้วเสร็จ 4,540 เรื่อง ย้ำทุกคนมีสิทธิตั้งคำถามเกี่ยวกับกฎหมาย
๑๓:๑๑ อิ่มไม่อั้น มา 4 จ่าย 3! กับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ Steak Night ทุกคืนวันเสาร์ ณ ห้องอาหารแคลิฟอร์เนีย สเต็ก โรงแรมคลาสสิค คามิโอ
๑๒:๑๕ โฮมโปร โกยรายได้ Q1/67 แตะ 1.8 หมื่นล้านบาท ฟันกำไร 1.7 พันล้าน รับอนิสงค์ Easy E-Receipt หนุน