กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า เหตุการณ์หลักสำหรับตลาดการเงินโลกจะอยู่ที่รายละเอียดการประชุมเฟดวันที่ 21-22 กันยายน โดยนักลงทุนจะประเมินจังหวะเวลาและแนวทางการปรับนโยบายการเงิน อนึ่ง กรุงศรีคาดว่าประธานเฟดจะเน้นย้ำถึงการเริ่มปรับลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ (QE Tapering) ภายในปีนี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เผชิญความเสี่ยงด้านขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหากประมาณการ Dot Plot บ่งชี้ว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปี 2565 ซึ่งเร็วกว่าประมาณการที่เฟดเคยเปิดเผยเมื่อเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ดี กรณีที่เฟดคง Dot Plot ไว้ตามเดิม คาดว่าเงินดอลลาร์อาจปรับฐานลงเล็กน้อย นอกจากนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) มีกำหนดประชุมในสัปดาห์นี้เช่นกัน ส่วนผลกระทบจากความปั่นป่วนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและความเสี่ยงที่จะลุกลามไปสู่ภาคการเงินยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขการค้าเดือนสิงหาคม ซึ่งคาดว่ามูลค่าการส่งออกและนำเข้าอาจเติบโตในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี นอกจากนี้ คาดว่านายกรัฐมนตรีจะพิจารณาข้อเสนอขยายเพดานหนี้สาธารณะจาก 60% ต่อจีดีพี เป็นไม่เกิน 70% ต่อจีดีพี เป็นการชั่วคราวเพื่อกลบหลุมรายได้จากวิกฤติ COVID-19 ทางด้านกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตร กรุงศรีประเมินว่าจะชะลอลงบ้างแต่ยังคงบ่งชี้ว่าในระยะสั้นเงินบาทอาจอ่อนค่าลงต่อเนื่องและมีโอกาสทดสอบระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 4 ปี
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา