บลจ.ไทยพาณิชย์ บุกตลาดญี่ปุ่น เปิดขาย Active Fund กับ "SCBJAPAN" IPO 5 - 11 ต.ค. นี้ มองตลาดยัง laggard มีโอกาสฟื้นตัวอีกมาก

อังคาร ๐๕ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๑๕:๒๗
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ คงเห็นโอกาสเติบโตจากการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหุ้นญี่ปุ่นมีการปรับตัวขึ้นในช่วงปีก่อนหน้า และเริ่มย่อตัวลงโดยตลาดคาดหวังโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นญี่ปุ่น แอคทีฟ (SCB Japan Active Equity : SCBJAPAN) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 5 - 11 ตุลาคม 2564 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ทั้งนี้ ได้เปิดให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า - SCBJAPAN(A) และชนิดกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว - SCBJAPAN(SSF) โดยสามารถซื้อได้ในทุกช่องทางรวมถึงผู้สนับสนุนการขายทุกราย

โดยความน่าสนใจของกองทุนหลัก คือ เป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Japan Large-Cap Equity ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 2564) พร้อมทั้งมีการบริหารเชิงรุก (Active Fund) โดยทีม Native Japanese Professionals ภายใต้ปรัชญาการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วง Regrowth Stage และหลีกเลี่ยงธุรกิจกลุ่ม Start-up ที่มักมีความผันผวนสูง เน้นลงทุนให้สร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด และสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนได้ง่ายตามสภาวะของตลาด ต่างกับการบริหารเชิงรับ (Passive Fund) ที่เน้นลงทุนตามดัชนีตลาด ทำให้ผลตอบแทนที่ได้ก็จะใกล้เคียงกับดัชนีตลาด นอกจากนี้ กองทุนยังเน้นพอร์ตการลงทุนที่มีความเชื่อมั่นสูง (high-conviction) ประมาณ 25 - 40 ตัว โดยให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นรายตัวสูงสุดไม่เกิน 10% ซึ่งที่ผ่านมากองทุนหลักสามารถสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

"หลังจากที่ราคาหุ้นญี่ปุ่นมีการปรับตัวขึ้นในช่วงปีก่อนหน้า และเริ่มย่อตัวลงตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มองว่าตลาดยัง laggard ตลาดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในปีนี้ จึงมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้อีกมาก สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เติบโตมาจากการที่บริษัทญี่ปุ่นได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนสมัยใหม่ เพื่อศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว รวมถึงการที่ภาครัฐและผู้ประกอบการได้ให้ความสำคัญต่อประเด็น ESG ซึ่งมองเป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคาดการณ์ว่าจะมีการนำพลังงานทางเลือกมาใช้กว่า 50-60% ภายในปี 2050 ประกอบกับตลาดญี่ปุ่นยังได้รับอานิสงส์จาก cyclical tailwind และมองว่าระดับภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตยังมีความต้องการในระดับสูง นอกจากนี้ ระดับ Valuation ที่ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ร่วมกับการเร่งตัวขึ้นของการคาดการณ์กำไรในตลาด และเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น ถึงแม้ว่า upside ในช่วงระยะสั้นจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่โอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาวคือสิ่งที่ตลาดคาดหวัง" นางนันท์มนัส กล่าว

สำหรับกองทุน SCBJAPAN เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Goldman Sachs Japan Equity Partners Portfolio (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน I Shares (Acc.) ในสกุลเงินเยน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS โดยกองทุนมีนโยบายเน้นสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากการเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทญี่ปุ่นที่คุณภาพดี และมีศักยภาพในการเติบโตสูง ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน

ส่วนกองทุนหลักบริหารโดย Goldman Sachs Asset Management Fund เน้นลงทุนในหุ้นที่มีขนาด Market Cap เริ่มต้นตั้งแต่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มการเงิน เป็นต้น โดยกองทุนจะเฟ้นหาไอเดียการลงทุนเพื่อวิเคราะห์หลักทรัพย์รายตัวเชิงลึก (Bottom?-up)?ในการประเมินศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจสูงสุด ทั้งนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 28.23% เทียบกับดัชนีอ้างอิง Topix Index (Net Total Return, Unhedged, JPY) อยู่ที่ 23.38% (ที่มา: GSAM ณ 31สิงหาคม 2564)

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF/SSF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือ https://scbam.info/3idvRfK สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ได้ที่ https://scbam.info/3dEjSFD

ที่มา: บลจ.ไทยพาณิชย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๑๕ TRP คว้ารางวัลเกียรติยศ Siamrath Awards 2024 ตอกย้ำ ผู้นำศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้าของประเทศไทย
๑๑:๔๖ ผถห.PIMO-ไพโม่ อนุมัติปันผลงวดครึ่งหลังปี 66 หุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น
๑๑:๑๘ การประชุมเตรียมงาน10 รอบ นักษัตรพระราชสมภพ
๑๑:๐๓ ผู้บริหารบางจากฯ แบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เชิญชวนช่วยกัน ลด ละ เริ่ม เพื่อโลกยั่งยืน ในงานสัมมนา Go Green 2024 : The Ambition of
๑๐:๑๔ 1 พ.ค. นี้ เตรียมพบกับฟิตเนสแห่งใหม่ ใจกลางศรีนครินทร์ กับบริการครบครัน ใกล้บ้านคุณ BB FITNESS@พาราไดซ์
๑๐:๑๐ HUAWEI Band 9 จับมือ 3 แพลตฟอร์ม Amado Shopping ช่องทางออนไลน์ Lazada และ Shopee ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์สมาร์ทวอทช์ด้วยราคาสมาร์ทแบนด์
๑๐:๔๙ ห้องอาหาร นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็มกับ เทศกาลบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น สุดพิเศษ และ บุฟเฟ่ต์ Carvery Night
๑๐:๓๔ TSPCA จัดประชุมสามัญประจำปี 2567 เตรียมความพร้อมสู่สามทศวรรษสวัสดิภาพสัตว์เพื่อก่อเกิด สวัสดิภาพคน
๑๐:๓๒ พด. มุ่งพัฒนาศักยภาพดินในพื้นที่ปลูกพืช GI เสริมศักยภาพเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
๑๐:๐๔ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ มอบของบริจาค พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ