การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นผลมาจากการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นมีเสถียรภาพจากเป็นลบของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ ในวันที่ 2 สิงหาคม 2559 (ตามประกาศ Fitch Upgrades National Ratings of 9 Thai Financial Institutions) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนโครงสร้างอันดับเครดิตภายในประเทศของประเทศไทย (หรือ national ratings scale) และความเหมาะสมในเชิงเปรียบเทียบของอันดับเครดิตภายในประเทศของสถาบันทางการเงินในประกาศดังกล่าวซึ่งรวมถึง BAY ด้วย ภายหลังจากที่ประเทศไทยถูกปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินในประเทศระยะยาว (Long-Term Local Currency Issuer Default Rating) การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ BAY สะท้อนว่าการปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารแม่ซึ่งคือ Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ, Ltd. (BTMU; A/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) อาจไม่ส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAY ต้องถูกปรับลดอันดับเครดิตในทันที (ในกรณีที่โครงสร้างเครดิตโดยรวมของประเทศไทยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง)
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
การค้ำประกันจาก BAY: อันดับเครดิตของหุ้นกู้สะท้อนถึงการค้ำประกันการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้จาก BAY ดังนั้นอันดับเครดิตของหุ้นกู้จึงเท่ากับอันดับเครดิตของผู้ค้ำประกัน
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยลบ:
• การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิต หรือการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ BAY ในทางลบ
ปัจจัยบวก:
• การเปลี่ยนแปลงอันดับเครดิต หรือการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ BAY ในทางบวก
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตของ BAY ตามประกาศลงวันที่ 2 สิงหาคม 2559
• อันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY น่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในความสามารถของบริษัทแม่ในการให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทลูก การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตของ BTMU อาจจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของ BAY การเปลี่ยนแปลงในโอกาสที่ BTMU จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกในประเทศไทยอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ BAY อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง