นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยตัวแทนข้าราชการและบุคลากรในสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวนกว่า 1,500 คน กล่าวคำปฏิญาณตนและประกาศเจตนารมณ์ในการที่จะปฏิบัติงานในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นกลาง อีกทั้งออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ให้ครบ 100% เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
จากนั้น ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ปล่อยขบวนรณรงค์และขบวนกลองยาว เดินรณรงค์ปลุกคนกรุงตื่นตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็น 2 สาย ได้แก่ ขบวนที่ 1 เคลื่อนขบวนจากลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ไปยังศาลเจ้าพ่อเสือ ถนนมหรรณพ มุ่งหน้ารณรงค์บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ขบวนที่ 2 เคลื่อนขบวนจากลานคนเมือง ไปตามถนนดินสอ ถนนราชดำเนิน มุ่งหน้ารณรงค์ที่ท่าเรือคลองแสนแสบ จากนั้นขบวนรถรงค์เดินรณรงค์บริเวณท่าช้าง มหาวิทยาลัยศิลปากร ท่าพระจันทร์ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมเป็นกำลังสำคัญเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อปลุกกระแสการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้เป็นการรวมพลังข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกาศเจตนารมณ์ในการมุ่งมั่นปฏิบัติงาน พร้อมทั้งเป็นสัญญาที่ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานครซึ่งมีสิทธิเลือกตั้งจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้ครบ 100% เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ประชาชนและเป็นการทำหน้าที่พลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าข้าราชการและบุคลากรของกทม.บางคนจะที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็ได้ช่วยกันทำหน้าที่เชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยลงพื้นที่เคาะประตูบ้านให้ได้ 100% เพื่อบอกกล่าวและเชิญชวนสมาชิกในครอบครัว เพื่อนฝูง ที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ และเป็นผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตระหนักถึงหน้าที่ของประชาชนชาวไทย รวมถึงความสำคัญของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ครบ100% เพื่อร่วมกันเป็นเสียงสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของมหานครชั้นนำแห่งนี้ด้วยตัวของเราเอง
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่พบเหตุทุจริตและความผิดปกติเกี่ยวกับการย้ายเข้าออกในทะเบียนบ้านหรือการจัดการเลือกตั้ง เนื่องจากได้ย้ำให้ผู้อำนวยการเขตและเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติงานตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนกรณีที่ประชาชนในพื้นที่เขตหลักสี่รายหนึ่งร้องเรียนว่ามีชื่อผู้อื่นแฝงในทะเบียนบ้านของตนเองนั้น ภายหลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นหมายเลขบ้านเดียวกัน แต่รหัสประจำบ้านต่างกัน จึงมอบหมายให้สำนักงานเขตเข้าไปชี้แจงกับเจ้าของบ้านทั้งสองหลัง พร้อมทั้งให้มีการแก้ไขหมายเลขบ้านให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายที่กำหนดให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งตรวจสอบรายชื่อ พร้อมทั้งแจ้งแก้ไขและเพิ่มถอนรายชื่อ หากพบว่ารายชื่อผิด ตกหล่น หรือมีรายชื่อผู้อื่นแฝงเข้ามาในทะเบียนบ้าน ภายในวันที่ 20 ก.พ.56