บีเอเอสเอฟเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลกสำหรับบิวเทนไดออลและโพลีทีเอชเอฟ

ศุกร์ ๑๒ กรกฎาคม ๒๐๑๓ ๑๐:๔๕
- กำลังการผลิตต่อปีของบิวเทนไดออลจะเพิ่มขึ้นเป็น 650,000 เมตริกตัน

- กำลังการผลิตต่อปีของโพลีทีเอชเอฟจะเพิ่มขึ้นเป็น 350,000 เมตริกตัน

- บีเอเอสเอฟเสริมความแกร่งในฐานะผู้นำระดับโลกสำหรับบิวเทนไดออลและสารอนุพันธ์ของบิวเทนไดออล

บีเอเอสเอฟจะเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลกสำหรับการผลิตเคมีอินเตอร์มีเดียส์ 1,4-บิวเทนไดออล (1,4 butanediol: BDO) และสารอนุพันธ์ของบิวเทนไดออล PolyTHF? (โพลีที เอชเอฟ: PolyTHF? ซึ่งชื่อทางเคมีคือ โพลีเตตราเมเทอร์ลีน อีเทอร์ ไกลคอล polytetramethylene ether glycol, PTMEG ) ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งกำลังการผลิตต่อปีสำหรับ บิวเทนไดออลของบีเอเอสเอฟจะเพิ่มขึ้นจาก 535,000 เป็น 650,000 เมตริกตัน และกำลังการผลิตต่อปีของโพลีทีเอชเอฟจะเพิ่มขึ้นจาก 250,000 เป็น 350,000 เมตริกตัน จากที่บีเอเอสเอฟได้เคยประกาศไปแล้วถึงการเพิ่มกำลังการผลิตของโพลีที เอชเอฟจาก 185,000 เป็น 250,000 เมตริกตันต่อปี เมื่อเดือนสิงหาคม 2555

บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินมาตรการในการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ รวมถึงการลงทุนระดับเลขสองหลักซึ่งมีหน่วยเป็นล้านเหรียญยูโร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตบิวเทนไดออลในโรงงานไกส์มาร์ของ บีเอเอสเอฟที่ลุยเซียนา และกำลังการผลิตของโพลีทีเอชเอฟที่โรงงานเคาจิง ประเทศจีน

ส่วนหนึ่งของการเพิ่มปริมาณการผลิตที่ได้ประกาศนั้นจะเป็นโรงงานผลิตบิวเทนไดออล และโพลีทีเอชเอฟ ซึ่งตั้งอยู่ที่คอร์ลา ประเทศจีน จากที่ได้เพิ่งประกาศไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า โรงงานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยการร่วมลงทุนระหว่าง บริษัทบีเอเอสเอฟ และบริษัท ซินเจียง มาร์คอร์ เคมิคอล อินดัสทรี จำกัด ซึ่งโรงงานจะมีศักยภาพในการผลิตต่อปีสำหรับบิวเทนไดออล ในปริมาณ 100,000 เมตริกตันต่อปี และปริมาณ 50,000 เมตริกตันต่อปีสำหรับโพลีทีเอชเอฟ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2558 และตั้งเป้าจะป้อนผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงนี้ให้กับลูกค้าต่าง ๆ ในตลาดประเทศจีน

ด้วยการขยายกำลังการผลิตทั่วโลกสำหรับบิวเทนไดออลและโพลีทีเอชเอฟ เราจะดำเนินการไปอย่างสอดคล้องกับตลาดที่เติบโตอย่างมั่นคงและปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของลูกค้าของเรา สำหรับปริมาณความต้องการของบิวเทนไดออล และโพลีทีเอชเอฟได้เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมากในภูมิภาคอเมริกา และมาตรการต่าง ๆ ของเราจะช่วยทำให้เราสามารถที่จะตอบสนองความต้องการนี้ได้ต่อไปนอกเหนือจากโรงงานการผลิตในประเทศของเราในไกส์มาร์” กล่าวโดย ซานจีฟ คานธี ประธาน กลุ่มธุรกิจอินเตอร์มีเดียส์ของบีเอเอสเอฟ และได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น ตลาดสำหรับโพลีทีเอชเอฟจะเติบโตต่อไป และธุรกิจของลูกค้าของเราด้วยเช่นกัน เราจะใช้มาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ในการสนับสนุนพันธมิตรทางการค้าของเราในการเติบโตของพวกเขา และเคียงข้างกับพวกเขาในฐานะผู้ผลิตภายในท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจได้ และเป็นผู้จัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์เพื่ออนาคต”

สำหรับบิวเทนไดออลและสารอนุพันธ์ของบิวเทนไดออลนั้น จะถูกใช้ในการผลิตพลาสติก, ตัวทำละลาย, เคมีสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, และ เส้นใยอีลาสติก ซึ่งวัสดุตั้งต้นสำหรับการผลิตบิวเทนไดออลก็คือ ก๊าซธรรมชาติ, บิวเทน, บิวทาไดอีน, และโพรพิลีน

ตลอดระยะเวลา 70 ปี บีเอเอสเอฟได้ทำการผลิตบิวเทนไดออลที่ลุควิคชฮาเฟ่น ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงงานการผลิตที่บูรณาการและเป็นเครือข่ายอย่างครบวงจร (Verbund — เวอร์บุนด์) โดยอาศัยกระบวนการเร็ปเป้ (Reppe) ด้วยกระบวนการที่มีอะเซทิลีนเป็นพื้นฐานนี้ได้รับการตั้งชื่อตามผู้ที่คิดค้นขึ้นคือ วอลเตอร์ เร็ปเป้ ซึ่งเป็นนักเคมีของบีเอเอสเอฟ และถือได้ว่าเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ากระบวนการอื่น ๆ สำหรับโรงงานการผลิตของบีเอเอสเอฟที่ผลิตบิวเทนไดออลและสารอนุพันธ์ของบิวเทนไดออล PolyTHF? นั้นตั้งอยู่ที่ ไกส์มาร์ ลุยเซียนา, ชิบ้า ประเทศญี่ปุ่น, กวนตัน ประเทศมาเลเซีย, เคาจิง ประเทศจีน และอัลซาน ประเทศเกาหลี

เป็นเวลา 30 ปีมาแล้วที่บีเอเอสเอฟได้เริ่มการผลิตโพลีทีเอชเอฟขึ้นเป็นครั้งแรกที่เวอร์บุนด์ (Verbund) ในลุควิคชฮาเฟ่น และในวันนี้ โรงงานผลิตโพลีทีเอชเอฟทั้ง 4 แห่งได้ทำให้บีเอเอสเอฟเป็นผู้ผลิตและซัพพลายโพลีทีเอชเอฟ (PolyTHF?) ไปได้ทั่วโลกเพียงรายเดียวเท่านั้น

ข้อมูลเกี่ยวกับโพลีทีเอชเอฟ (PolyTHF?) สำหรับ Spandex:

http://www.intermediates.basf.com/chemicals/spandex/index

http://www.basf.com/group/corporate/de/news-and-media-relations/science-around-us/functional-wear/index

ข้อมูลเกี่ยวกับ Reppe chemistry: http://www.intermediates.basf.com/chemicals/topstory/reppe-chemie

เกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจอินเตอร์มีเดียส์

กลุ่มธุรกิจอินเตอร์มีเดียส์ของบีเอเอสเอฟทำการพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อินเตอร์มีเดียส์มากกว่า 600 ชนิดทั่วโลก ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของกลุ่มธุรกิจได้แก่ สารเอมีน, ไดออล, โพลี แอลกอฮอล, กรด, และเคมีชนิดพิเศษ ซึ่งอินเตอร์มีเดียส์ถูกใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับการเคลือบสี, พลาสติก, เภสัชภัณฑ์, เส้นใยผ้า, ผงซักฟอก, และผลิตภัณฑ์อารักขาพืชต่าง ๆ สำหรับนวัตกรรมอินเตอร์มีเดียส์ของบีเอเอสเอฟนั้น ช่วยในการพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่เป็นขั้นตอนสุดท้าย และประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต โดยกลุ่มธุรกิจอินเตอ์มีเดียส์ได้รับการรับรอง ISO 9001 สำหรับดำเนินการผลิตในโรงงานต่าง ๆ ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกา ซึ่งมียอดขายทั่วโลกที่จำหน่ายให้กับบริษัทภายนอกราว 2.9 พันล้านยูโร ในปี 2555 ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์

www.intermediates.basf.com

เกี่ยวกับบีเอเอสเอฟ

บีเอเอสเอฟ คือบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก กลุ่มธุรกิจของบีเอเอสเอฟ ประกอบไปด้วยกลุ่มเคมีภัณฑ์ กลุ่มพลาสติก กลุ่มผลิตภัณฑ์เพอร์ฟอร์มานซ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อารักขาพืช รวมไปถึงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เราผสมผสานความสำเร็จทางเศรษฐกิจด้วยการป้องกันรักษาด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม บีเอเอสเอฟช่วยตอบสนองความต้องการทั้งในปัจจุบันและในอนาคตของสังคมให้กับลูกค้าของเราในเกือบทุกอุตสาหกรรมผ่านทางวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของเรามีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรเพื่อให้มั่นใจในด้านโภชนาการและการพัฒนาคุณภาพชีวิต เราได้สนับสนุนเรื่องนี้ในเป้าหมายขององค์กร: เราสร้างเคมีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน บีเอเอสเอฟมียอดขายมากกว่า 72.1 พันล้านยูโรในปี 2012 และมีจำนวนพนักงานทั่วโลกมากกว่า 110,000 คน หุ้นของบีเอเอสเอฟได้มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในแฟรงค์เฟิร์ต (BAS) ลอนดอน (BFA) และ ซูริค (AN) ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบีเอเอสเอฟได้ที่เว็บไซต์ www.basf.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest