พรรณิภา ปวนะฤทธิ์ ผู้บริหารร้าน “พรรณิภา แฮร์ เนล บิวตี้” และนายกองค์การกำหนดเทรนด์ผมโลก อินเตอร์คอฟเฟอร์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “การดูแล "เส้นผม" โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะความชื้นและละอองฝนจะทำให้การจัดแต่งทรงผมไม่ทนเท่าที่ควร เช่น ผมตรงธรรมชาติไดร์หยิกหรือวอลุ่ม พอโดนความชื้นทรงผมก็จะคลายเร็ว หรือถ้าผมหยิกฟูธรรมชาติไดร์ตรง พอโดนฝน ผมก็จะฟูเร็วขึ้น ความหยิกกลับมาเร็วกว่าเดิม เป็นต้น ยิ่งถ้าเป็นผมทำสี ต้องดูแลมากเช่นเดียวกัน ถึงแม้ในหน้าฝนผมจะไม่โดนแดดมากนัก แต่ความชื้นในอากาศก็สูงกว่าปกติ ในกรณีทำสีผม ผมยาวปานกลางและยาวเกินไหล่ ต้องเน้นการบำรุงให้มาก เนื่องจากผมที่ผ่านการทำสีจะเปลี่ยนจากผมธรรมชาติให้อ่อนลง 2-5 ระดับ หรือมีไฮไลท์ผสมก็ตามด้วยนั้น ความชื้นในอากาศจะทำให้ผมดูแห้งฟูได้ บางครั้งเป่าไดร์เสร็จ 1 ชั่วโมง ต่อมาโดนฝนหรือโดนละอองฝนผมก็จะฟูไม่เหมือนที่ทำมาใหม่ๆ หรือแฟบแบน ความหยิกของทรงผมที่เป่าไดร์ให้หยิก ผมก็จะคลายเร็ว หรือผมหยิกฟูธรรมชาติไดร์ตรง ผมก็จะกลับมาหยิกเร็วขึ้น ถึงแม้สีผมจะไม่เฟดเร็วแต่ต้องดูแลมากเช่นเดียวกัน”
“วิธีการแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอย่างง่ายๆ ด้วยตนเอง ควรเลือกใช้แชมพู Anti Frizz เพื่อควบคุมความฟู ควบคู่ไปกับครีมบำรุง Anti Frizz ตามด้วย Serum leave in สำหรับควบคุมความหยิกฟูของเส้นผม หรือใช้แชมพู color save สำหรับผมทำสี แล้วตามด้วยครีมบำรุงและ Serum Anti Frizz ก็ได้ สำหรับผมเส้นเล็กและต้องการให้ดูหนาขึ้น ดูมีวอลุ่มต้องใช้ Volumizig mousse จัดแต่งทรงผมก่อนเป่าไดร์ เสร็จแล้วให้ใช้ Finishing Spray ให้อยู่ทรง และช่วงหน้าฝนอย่าใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์มากเกินไป ให้เน้นสเปรย์ที่ไม่แข็งมาก และมีส่วนผสมของธรรมชาติจะดีกว่า”
“ท้ายสุด อยากบอกว่าเมื่อเราเปียกฝน และกลับถึงบ้าน เราควรจะรีบอาบน้ำสระผมในทันที เพราะน้ำฝนที่ตกลงมาจะชะล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคในอากาศลงมาด้วย นอกจากทำให้ไม่สบายได้ง่าย เส้นผมและหนังศีรษะยังเกิดความชื้นสะสมด้วย จากนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมาชโลมศีรษะเว้นบริเวณโคนผม และเป่าผมให้แห้งสนิททั้งเส้นผมและหนังศีรษะ อย่าทิ้งหมาดๆ เพราะว่าจะมีกลิ่นอับและเชื้อราที่หนังศีรษะได้ และควรเป่าผมจากบนลงล่าง เพื่อให้เกล็ดผมไม่เปิดและเรียงตัวสวยเพื่อป้องกันความชื้นด้วย รวมถึงควรใช้หวีซี่ห่างๆหวีเบาๆ เพื่อไม่ให้เส้นผมพันกัน และไม่เกิดอาการชี้ฟูหลังจากผมแห้ง”
“นอกจากนี้ ควรหมั่นทำทรีตเม้นท์บำรุงสภาพเส้นผมเป็นประจำ สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ตลอดจนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อช่วยดูแลเส้นผมและสีผมให้สวย ดูโดดเด่น มีชีวิตชีวา มีประกายให้มากขึ้นค่ะ” พริดา ลิมปานนท์ ผู้บริหารและนิวเจเนอเรชั่น บิวตี้ สเปเชียลลิสต์ ร้าน “พรรณิภา แฮร์ เนล บิวตี้” กล่าวเสริม
ปัจจุบันร้าน “พรรณิภา แฮร์ เนล บิวตี้” เปิดบริการแล้วทั้งสิ้น 8 แห่งทั่วกรุงเทพฯ โดยได้รับการยอมรับและกล่าวขานอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ เพราะเน้นและคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคนเป็นสำคัญ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามหรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติม โทร. 0-2392-6218, 0-2711-4089,0-2711-4311 หรือข้อมูลเพิ่มเติมคลิก http://www.panipa.com