เมื่อถามถึง การเดินทางไปประชุมสหประชาชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งผลดีต่อประเทศไทยในด้านต่างๆ อะไรบ้าง พบว่า อันดับแรก ได้แก่ ร้อยละ 84.0 ระบุ การรักษาผลประโยชน์ชาติ รองลงมา ได้แก่ ร้อยละ 76.0 ระบุ การแสดงวิสัยทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 72.0 ระบุ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ ร้อยละ 70.9 ระบุ การทำหน้าที่ชี้แจงของ นายกรัฐมนตรี และรองๆ ลงไปคือ การเป็นที่วางใจได้ของนานาประเทศทั่วโลก ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ การเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และการค้าขายระหว่างประเทศ
เมื่อถามถึง ผลงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. ภายในประเทศ พบว่า อันดับแรก ได้แก่ ร้อยละ 92.0 ระบุ การปราบปรามผู้มีอิทธิพล รองลงมาได้แก่ ร้อยละ 88.0 ระบุการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ร้อยละ 88.0 เช่นกันระบุ การแก้ปัญหาทุจริต คอรัปชั่น ร้อยละ 84.0 ระบุ การจัดระเบียบรถตู้ รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ร้อยละ 80.0 ระบุ การพลิกฟื้นผืนป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และรองๆ ลงไปได้แก่ การห้ามขายหวยเกินราคา การปลุกจิตสำนึกประชาชนรักษาสิ่งแวดล้อม การดูแลผู้พิการ คนสูงอายุ และคุณภาพชีวิตเด็กเล็ก การแก้ปัญหาจราจร และสุดท้าย การแก้ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ การทำให้คนไทยมีงานทำ ทักษะดี เงินดี มีสุข ตามลำดับ
ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.5 ระบุ ไม่เคยได้รับประโยชน์จาก พรรคการเมือง เลย ในขณะที่ร้อยละ 13.8 ระบุได้รับจาก พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 11.9 ระบุได้รับจากพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ15.8 ระบุได้รับจากพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น ภูมิใจไทย และ ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น
เมื่อถามถึง การยึดทรัพย์นักการเมืองที่มีส่วนทำผิดคดีจำนำข้าว พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.3 เห็นด้วย และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.3 ไม่กังวลว่าจะเกิดเหตุวุ่นวายในประเทศ ถ้าลงโทษยึดทรัพย์นักการเมืองที่ทำผิดคดีจำนำข้าว อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.8 ยังคิดว่า นักการเมืองก็จะทุจริต คอรัปชั่นอีกเหมือนเดิม ถึงแม้จะมีการลงโทษนักการเมืองที่โกงจำนำข้าว ก็ตาม
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.9 เห็นด้วยที่จะดำเนินการเอาผิดนักการเมืองที่เคลื่อนไหวปั่นป่วนความสงบสุขของบ้านเมือง และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.1 ยังต้องการให้เวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดูแลแก้ปัญหาของประเทศชาติต่อไปอีกมากกว่า 3 ปีขึ้นไป