สำหรับทีมผู้ชนะจากระดับภูมิภาคในการแข่งขัน Global Social Venture Competition ระดับภูมิภาคซึ่งมีด้วยกัน 2 ทีม ได้แก่ ทีม Ricult จากปากีสถาน ธุรกิจเพื่อสังคมที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร โดยการปล่อยสินเชื่อในอัตราที่พวกเขาสามารถรับได้ด้วยการออกแบบสินเชื่อให้เหมาะสมตามลักษณะของการดำเนินกิจกรรมทางการเกษตร โดยใช้เทคโนโลยีทางด้านดาวเทียมมาประยุกต์เข้ากับระบบประเมินความเสี่ยงที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรจาก MIT ซึ่งจะสามารถประเมินความสามารถในการจ่ายเงินคืนของผู้ยืมได้ตามรอบฤดูเก็บเกี่ยวอย่างแม่นยำ อีกทั้งยังช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องของการหาตลาด เป็นตัวกลางระหว่างเกษตรกรกับผู้ซื้อโดยตรง และทีม BliEye จากบังคลาเทศ ผู้พัฒนาอุปกรณ์นำทางสำหรับคนตาบอดและผู้มีปัญหาการมองเห็น โดยใช้เทคโนโลยี Sonar Sensor ในส่วนของทีมรองชนะเลิศลำดับสามได้แก่ CultureShare จากออสเตรเลีย ผู้ที่ได้ก้าวเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องการจ้างงานในชนกลุ่มน้อย ผู้ด้อยโอกาส และ ผู้ลี้ภัย โดยการเป็นผู้เชื่อมโยงระหว่างบริษัทที่ต้องการแรงงานในการผลิตสินค้าในเชิงวัฒนธรรม และชุมชนต่างๆ เหล่านั้น ในด้านการแข่งขัน MIT Enterprise Forum Thailand ทีมที่ชนะเลิศได้แก่ AIM Solution ผู้พัฒนาหุ่นยนต์เพื่อใช้เป็นตัวช่วยสำหรับครู ผู้ปกครอง และนักบำบัด ในการฝึกฝนการสื่อสารกับเด็กออทิสติก ลำดับที่ 2 คือ ShiftSpace ผู้ให้บริการพื้นที่ขายสินค้าอี-คอมเมิร์ช โดยทำหน้าที่จัดหาพื้นที่ที่มีศักยภาพและตรงกับวัตถุประสงค์ของเจ้าของสินค้า ให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ เมืองทั่วโลก และลำดับ 3 คือ Electronic Nose สตาร์ทอัพที่พัฒนาวัตถุดิบที่จะสามารถใช้เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณอัจฉริยะ เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาสังคมและอุตสาหกรรม
นอกจากนั้นภายในงาน IDE Thailand 2017 ยังได้จัดเวที Think Big, Act Small Symposium นำผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และผู้นำทางความคิดระดับโลก มาไว้บนเวทีเดียวกัน อาทิ Randy Komisar, Christopher Janney, Jimmy Jia, Edward Rubesch, Jagdish Chaturvedi, Jiawei Gu, Brian Cotter และวิภาวี คุณาวิชยานนท์ ที่ต่างนำเอาประสบการณ์ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของตนมาเล่าสู่กันฟัง ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเอง โดยในกิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเข้าร่วมอย่างคับคั่ง