ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ พร้อมบูรณาการจังหวัดช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ศุกร์ ๐๘ ธันวาคม ๒๐๑๗ ๑๘:๒๗
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง นราธิวาส นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี รวม 87 อำเภอ 626 ตำบล 4,61 หมู่บ้าน 306,288 ครัวเรือน 967,095 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จากอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2560 ทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล นราธิวาส นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ รวม 109 อำเภอ 722 ตำบล 5,123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 354,202 ครัวเรือน 1,142,341 คน เสียชีวิต 15 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ และสตูล ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 8 จังหวัด รวม 87 อำเภอ 626 ตำบล 4,619 หมู่บ้าน 306,288 ครัวเรือน 967,095 คน ประกอบด้วย ลุ่มน้ำปัตตานี 2 จังหวัด ได้แก่ ปัตตานี เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก อำเภอยะรัง อำเภอไม้แก่น อำเภอสายบุรี อำเภอปะนาเระ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอแม่ลาน อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอยะหริ่ง อำเภอมายอ และอำเภอกะพ้อ รวม 112 ตำบล 621 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,469 ครัวเรือน 100,613 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ยะลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอยะหา อำเภอบันนังสตา อำเภอกรงปินัง อำเภอรามัน อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอเบตง รวม 56 ตำบล 322 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,099 ครัวเรือน 112,226 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 2 จังหวัด ได้แก่ สงขลา น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอนาหม่อม อำเภอสทิงพระ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอจะนะ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอควนเนียง อำเภอสิงหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอรัตภูมิ อำเภอนาทวี อำเภอนางกล่ำ อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอระโนด อำเภอสะเดา และอำเภอเมืองสงขลา รวม 125 ตำบล 913 หมู่บ้าน 78 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 75,803 ครัวเรือน 216,440 คน เสียชีวิต 3 ราย พัทลุง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอศรีบรรพต อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าพะยอม อำเภอป่าบอน อำเภอเขาชัยสน อำเภอบางแก้ว และอำเภอตะโหมด รวม 65 ตำบล 651 หมู่บ้าน 19 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 38,517 ครัวเรือน 119,424 คน เสียชีวิต 1 ราย ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ตรัง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอนาโยง อำเภอปะเหลียน อำเภอวังวิเศษ อำเภอกันตัง อำเภอรัษฎา และอำเภอย่านตาขาว รวม 60 ตำบล 439 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ประชาชนได้รับ 18,108 ครัวเรือน 50,075 คน เสียชีวิต 2 ราย ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก 2 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอจะแนะ อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุคิริน อำเภอระแงะ อำเภอบาเจาะ อำเภอรือเสาะ อำเภอตากใบ อำเภอศรีสาคร อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงปาดี อำเภอสุไหงโก – ลก และอำเภอแว้ง รวม 75 ตำบล 549 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 34,487 ครัวเรือน 137,799 คน นครศรีธรรมราช น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 21 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอบางขัน อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอพิปูน อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอสิชล อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอนาบอน อำเภอฉวาง อำเภอลานสกา อำเภอนบพิตำ อำเภอหัวไทร อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพรหมคีรี อำเภอพระพรหม อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอช้างกลาง อำเภอร่อนพิบูลย์ และอำเภอท่าศาลา รวม 156 ตำบล 1,257 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 106,807 ครัวเรือน 325,907 คน เสียชีวิต 2 ราย ลุ่มน้ำตาปี 1 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอบ้านนาเดิม รวม 29 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,097 ครัวเรือน 9,837 คน ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานจังหวัดจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตระดมทรัพยากรและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย งเต็นท์ที่พัก รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๒๕ เม.ย. NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest