เมื่อเร็วๆ นี้ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิต เพื่อติดตามความคืบหน้าการฝึกอาชีพและพบปะให้กำลังใจกับผู้เข้ารับการฝึกในจังหวัดยโสธรและอุบลราชธานี ณ ที่ว่าการอำเภอ คาเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 7 อุบลราชธานี
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านความมั่งคง ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการตามแนวทางประชารัฐ ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพผู้มีรายได้น้อย ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมภายใต้ภารกิจของหน่วยงาน
โดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานยโสธร ได้รับเป้าหมายดำเนินการจำนวน 5,177 คน ผลการดำเนินงานตามโครงการฯ ได้แก่ กิจกรรมการส่งเสริมและฝึกอาชีพ หลักสูตรฝึกอาชีพเร่งด่วนช่างอเนกประสงค์ (ช่างชุมชน) จำนวน 60 ชั่วโมง เป้าหมายจำนวน 383 คน ผลดำเนินการ 311 คน คิดเป็นร้อยละ 81.20 และกิจกรรมการฝึกอาชีพเสริมเพื่อการมีงานทำหรือการประกอบอาชีพอิสระเป้าหมาย 4,767 คน ผลดำเนินการ 1,960 คน คิดเป็นร้อยละ 41.11 ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมการรับมอบเครื่องหมายมาตรฐานฝีมือแรงงานให้สถานประกอบกิจการในพื้นที่จังหวัดยโสธร และมอบเครื่องมือช่างให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกช่างอเนกประสงค์(ช่างชุมชน) จำนวน 26 คน อีกด้วย
สำหรับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 7 อุบลราชธานี (สพร.)นั้น รมว.แรงงานและคณะได้เดินทางเยี่ยมชมการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย ในหลักสูตรการฝึกอาชีพเสริม จำนวน 2 สาขา ประกอบด้วย สาขาการจักสาน และสาขาการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร พร้อมมอบเครื่องมือให้กับผู้ผ่านการฝึกช่างอเนกประสงค์ หรือช่างชุมชน จำนวน 47 คน เพื่อนำไปประกอบอาชีพ โดยมีนายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและ นายไกรสิทธิ์ ศรีสำราญ ผอ.สพร. 7 อุบลราชธานี เป็นผู้นำคณะเข้าเยี่ยมชมการฝึก
นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมกิจกรรมอื่นๆ ของ สพร. 7 อุบลราชธานี อาทิ เยี่ยมชมโรงฝึกงานช่างไฟฟ้าและช่างเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ ศูนย์ฝึกอบรมและศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เยี่ยมชมหุ่นยนต์แขนกลสัญชาติไทย ซึ่งเป็นการประสานงานระหว่าง ภาครัฐและภาคเอกชน ในการเตรียมความพร้อมการพัฒนากำลังคนด้านระบบอัตโนมัติ การฝึกช่างซ่อมตัวถังและพ่นสีรถยนต์และรับมอบวัสดุฝึกอบรมจาก 4 บริษัท ที่เป็นเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงาน มูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท และจุดสุดท้ายที่เยี่ยมชมคือ การฝึกอบรมสาขา ผู้ประกอบอาหารไทย ในโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก
"การพัฒนาทักษะฝีมือให้กับกำลังแรงงาน เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกัน จึงจะสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างมั่นคง และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการลงพื้นที่เยี่ยมชมการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย ได้ให้นโยบายว่า การฝึกต้องมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง และได้ตั้งเป้าไว้ว่า ผู้ที่ผ่านการฝึกอาชีพแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 จะนำความรู้ไปต่อยอดประกอบอาชีพ และมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการนี้ตั้งเป้าฝึกอาชีพ 625,120 คน ปัจจุบันมีผู้สมัครฝึกอาชีพ จำนวน 436,329 คน เป็นงานที่เหนื่อยและหนัก แต่ต้องขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องประชาชน" พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวในช่วงท้าย