ปัจจุบันเก่ง อธิป เป็นพิธีกรรายการธรรมะแนวใหม่ "มหัศจรรย์วัดโพธิ์" ทางช่อง TNN24 และเมื่อเร็วๆ นี้ โครงการ "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" จัดโดย ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย ได้เชิญมาบรรยายในหัวข้อ"ธรรมะ ทำมั้ย ไม่ธรรมดา"
เก่งอธิปเล่าว่า ตอนบวชเป็นพระไปจำวัดอยู่ที่ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย โดยเป็นลูกศิษย์ท่านว.วชิรเมธี ซึ่งได้แต่งเพลงถวายด้วย รวมทั้งยังแต่งเพลงธรรมะถวายพระอาจารย์ถาวร จิตตถาวโร (พระเทพวิมลญาณ) วัดปทุมวนาราม ชื่อเพลง"มัชฌิมาปฏิปทา"
ในช่วงการบรรยาย นักร้องหนุ่มคนนี้ร้องเพลงธรรมะให้ฟังหลายเพลง หนึ่งในนั้นคือเพลง"วางใจให้ถูก" ซึ่งมีเนื้อหาที่ใช้สอนผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดำรงชีวิตอย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดความสุขอย่างแท้จริง
บทเพลงดังกล่าวมีเนื้อหาที่สอดแทรกธรรมะให้คนฟังได้คิด ดังเนื้อร้องที่ว่า
"อาจมีที่เผลอไปไกล บางครั้งที่หัวใจเราไม่อยู่กับตัว หากมีบ่อยครั้งที่เราไม่รู้ว่าความร้ายของชีวิตคืออะไร มีคนหลายคนไขว่คว้าหาความสุขอยู่ที่ไหน เสาะหาเรื่อยไป ยิ่งหายิ่งไม่เจอสักที เพราะที่แท้ความสุขมันอยู่ใกล้ตา อยู่ในใจทุกวัน ไม่ต้องไขว่คว้า เพียงแค่หลับตา จะมองเห็น อาจมีที่เผลอไปไกล บางครั้งที่หัวใจเราไม่อยู่กับตัว อาจมีบ่อยครั้งที่เราไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตคืออะไร กำหนดลมหายใจ แล้วปล่อยวางชีวิตที่วุ่นวาย หลับตาลงช้าๆ แม้ไม่เห็นสิ่งรอบกาย แต่เราจะเห็นหัวใจตัวเอง"
เก่ง อธิปได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลงนี้ว่า เป็นการถ่ายทอดมาจากคำสั่งสอนของพระอาจารย์หลายๆ ท่าน ซึ่งได้สอนวิธีการวางใจให้มีความสุข
"ยกตัวอย่าง ถ้าเรารักใครสักคนหนึ่ง เราจะทิ้งหัวใจไว้ที่เขา แล้วลืมหัวใจของตัวเอง การลืมหัวใจของตัวเองผมว่ามันสาหัส หัวใจเป็นสิ่งที่อยู่ในตัวของเรา เหมือนกับว่าขาดอวัยวะที่สำคัญที่สุดในชีวิตไป นั่นคือจุดสำคัญที่สุดหายไปแล้ว เราเอาหัวใจไปทิ้งให้กับคนอื่น เพราะฉะนั้นการดึงหัวใจกลับมา การดึงลมหายใจ กลับมาที่ตัวเอง เป็นสิ่งที่เราได้อยู่กับตัวเองแล้วมันมีความสุขที่สุด" พร้อมกันนี้ ยังยกบทเพลงชื่อก้อนหินก้อนนั้น ของ"ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค" มาเล่าให้ฟังด้วยว่า "เป็นเพลงที่ทรงคุณค่ามากมาก เพราะชี้ให้เห็นว่าความทุกข์เปรียบเสมือนก้อนหิน หากกำก้อนหินก้อนหนึ่งไว้เหมือนกำความทุกข์ แค่ไม่มีก้อนหินเรากำมือแน่นมันก็เจ็บและเหนื่อยแล้ว แต่ถ้ามีก้อนหินหรือขวากหนามอะไรสักอย่างอยู่ในมือ มันยิ่งทำให้เราเลือดไหล เป็นการทำร้ายตัวเองชัดๆ"
นอกจากนี้นักร้องหนุ่มได้ถ่ายทอดประสบการณ์ช่วงบวชเป็นพระ และออกไปธุดงค์ปักกลดอยู่ใกล้ๆกับสุสานแห่งหนึ่ง ในอ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งท่านว.วชิรเมธีเตือนไว้ล่วงหน้าแล้วว่าถ้าจิตไม่แข็งพออย่าไป
เนื่องจากเป็นสุสานที่ลือกันว่าดุและเฮี้ยนมาก แต่นักร้องใฝ่ธรรมคนนี้ทำเป็นใจดีสู้เสือ และคิดว่าผีไม่หลอกและไม่ทำร้ายผ้าเหลือง ทว่าในย่ามก็เตรียมบทสวดไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ตามเวลานั่งสมาธิด้วยบรรยากาศหลายๆ อย่าง ทำให้เกิดอุปทานต่างๆ นานา เช่นคิดว่ามีเปรต และคิดว่าได้กลิ่นธูป แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่จิตปรุงแต่งขึ้นเองทั้งหมด
ผลจากการออกธุดงค์ในครั้งนั้น ทำให้นักร้องใฝ่ธรรมคนนี้เข้าใจเรื่อง"จิตที่ปรุงแต่ง" ได้อย่างชัดแจ้ง พร้อมกับนำเรื่องนี้มาเชื่อมโยงกับพฤติกรรมของผู้คนในสังคม อย่างที่นักร้องหนุ่มเปรียบเทียบให้ฟังว่า สมัยนี้เกิดเหตุการณ์มากมาย ไม่ว่าจะถอยรถชนกัน ถึงขั้นยิงกันเลย แค่นิดเดียวเกิดอาการฆ่ากัน หงุดหงิดใส่กัน ไม่เว้นแม้แต่คนในบ้านที่ทะเลาะกัน นี่แหละคือจุดเล็กๆจากคำว่าปรุงแต่ง เหมือนผงชูรส เมื่อนำมาปรุงอาหารก็ได้รสจัดจ้าน แต่ในความจัดจ้านเกินไป ทำให้ไตทำงานหนัก เช่นเดียวกับจิตถ้าใส่ผงชูรสเยอะเกิดไป จิตปรุงแต่งเยอะเกินไปก็จะทำให้ชีวิตทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ
"สมมติว่าเราอยากให้ชีวิตเรียบง่ายและสบายขึ้น เราควรเติมผงชูรสให้น้อยลง หรือไม่ใส่เลย เป็นออแกนิกจะดีกว่าใช่ไหม ตรงนี้เป็นจุดเล็กๆ น้อยๆ คำว่า ธรรมะ ทำมั้ย ไม่ธรรมดา กับคำว่าจิตปรุงแต่ง ทุกอย่างมันสืบเนื่องสอดคล้องกันหมดเลย"เก่ง อธิป สรุปด้วยประโยคบอกเล่าง่ายๆ แต่เข้าถึงแก่นหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์อย่างแท้จริง
สนใจร่วมฟังธรรมะบรรยายในโครงการ"เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ได้ที่ ชั้น 11 อาคารซี.พี.ทาวเวอร์ ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00 -13:30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ