ประเทศไทยควรมีกฎหมายคุ้มครองป้องกันเด็กจากการรังแกทางออนไลน์ (Cyberbullying) หรือไม่?

พฤหัส ๑๙ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๐:๑๖
เด็กเป็นอีกกลุ่มบุคคลที่มีการฆ่าตัวตาย มีการอาการซึมเศร้าขาดที่พึ่ง ไม่สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาหรือวางตัวในสังคมได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยสาเหตุที่ก่อให้เกิดพฤติการณ์หรืออาการเหล่านั้นมักมาจากเรื่องที่สัมพันธ์กับเด็ก เช่น การเรียน ความรัก ครอบครัว รวมถึงการกลั่นแกล้งรังแกทางสื่อออนไลน์ (Cyberbullying)

แม้ประเทศไทยจะไม่มีหลักฐานหรือประจักษ์พยานว่าสาเหตุของพฤติการณ์เหล่านั้นมาจากการกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์ แต่หลายครั้งก็มีการคาดการณ์ว่าการกลั่นแกล้งทางออนไลน์เป็นสาเหตุของพฤติการณ์เหล่านั้น เพราะการกลั่นแกล้งทางออนไลน์สามารถทำได้ง่าย สร้างการรับรู้ไปถึงคนในวงกว้างได้ และสามารถรังแกได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ผู้ถูกรังแกจะเกิดความเจ็บปวดจากการกลั่นแกล้งลักษณะนี้ได้มากกว่าเช่นกัน

จากสาเหตุข้างต้น ดร.ฟ้าใส สามารถ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ และคณะจึงได้ทำการศึกษาเรื่อง "หลักการทางกฎหมายของประเทศไทยในการคุ้มครองสิทธิเด็กจากการถูกกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์" โดยได้ทำการศึกษาทั้งข้อกฎหมายของไทยและศึกษากรณีศึกษาจากข้อกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ทั้งในระดับรัฐบาลกลาง (Federal law) และกฎหมายมลรัฐ (State law) เพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาในการพัฒนาข้อกฎหมายไทยต่อไป สำหรับกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิเด็กจากการถูกกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์ ดร.ฟ้าใส ได้อธิบายว่ามีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องสุด 3 ฉบับ ได้แก่ 1) พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่มุ่งเน้นการคุ้มครองทางกายภาพ มิให้ถูกทารุณกรรม 2) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 ที่มีบทลงโทษการเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์บางประการ เช่น ข้อมูลปลอมหรือเท็จ ข้อมูลลามก 3) ประมวลกฎหมายอาญาความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย มาตรา 293 และความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง มาตรา 326- 333 โดยหากเป็นความเสียหายต่อเอกชนหรือบุคคลผู้เสียหายต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดมิฉะนั้นจะขาดอายุความ และสามารถยอมความได้ นอกจาก 3 ข้อกฎหมายของไทยที่กล่าวถึงในข้างต้น ยังมีข้อกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยมีส่วนร่วม คืออนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child 1989) ในปี 2532 ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามไม่ให้มีการใช้สื่อออนไลน์ในการยั่วยุให้เด็กฆ่าตัวตาย

ถึงกระนั้นจะเห็นได้ว่าจากข้อกฎหมายที่มีการใช้อยู่ในไทยไม่มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเด็กจากการถูกกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์โดยตรง และยังมีการกลั่นแกล้งบางประเภทที่ไม่มีบทลงโทษทางกฎหมาย เช่น การกลั่นแกล้งโดยไม่ได้กระทำด้วยข้อความเท็จหรือลามก เช่น การล้อเลียน การติดตามรังควาน การกล่าวถึงโดยเลี่ยงการระบุตัวบุคคลแต่สามารถรับรู้ได้ในสังคมนั้น ๆ หรือชวนให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นตนเอง เป็นต้น

ในขณะที่บางประเทศจะมีข้อกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิเด็กจากการถูกกลั่นแกล้งรังแกทางออนไลน์โดยตรง เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพระราชบัญญัติการป้องกันการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ (Megan Meier Cyberbullying Prevention Act) เพื่อป้องกันและคุ้มครองเด็กผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตมิให้ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งในลักษณะต่าง ๆ และเพื่อเป็นการอุดช่องโหว่ของข้อกฎหมายในเรื่องการล่วงละเมิด แต่ละมลรัฐเคยมีจึงมีกฎหมายระดับมลรัฐเพิ่มเติม (จากข้อมูล ณ ปี 2561 มีแล้วทั้งสิ้น 22 มลรัฐ) สำหรับประเทศแคนาดา มีพระราชบัญญัติปกป้องชาวแคนาดาจากอาชญากรรมออนไลน์ (Protecting Canadians from Online Crime Act) ที่มีทั้งบทบัญญัติความผิดเกี่ยวกับการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ และแนวทางในการสืบพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานสืบสวนสอบสวนโดยเฉพาะในชื่อ Cyber-SCAN เพื่อทำหน้าที่สืบสวนและเข้าช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

ซึ่งจากการศึกษาเปรียบเทียบข้อกฎหมาย ดร.ฟ้าใส ได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในการมีข้อกฎหมายคุ้มครองประชาชน โดยเฉพาะเด็กซึ่งมีความเสี่ยงต่อการบอบช้ำได้มากกว่าจากวุฒิภาวะและประสบการณ์ชีวิตที่ยังมีไม่มาก โดยได้แสดงความเห็นว่าอาจต้องมีการกำหนดข้อกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองประชาชน ทั้งนี้จะต้องมีการศึกษากรณีศึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมายเพิ่มเติมและศึกษาบริบทที่เกี่ยวข้อง เช่น สิทธิมนุษยชนเพื่อให้ข้อกฎหมายมีความเหมาะสมและรัดกุม และแม้จะยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองในเรื่องนี้เราสามารถช่วยลดความเสี่ยงให้แก่คนใกล้ชิดได้โดยการดูแลสภาวะจิตใจกันและกันอย่างสม่ำเสมอ

แม้ประเทศไทยจะยังไม่มีเหตุการณ์สูญเสียที่สามารถระบุสาเหตุว่ามาจากการกลั่นแกล้งรังแกทางสื่อออนไลน์ (Cyberbullying) ได้แต่เราอาจไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียที่นำพาความเศร้าโศกและเกิดเป็นบทเรียนแก่คนทั่วโลกอย่างเหตุการณ์การเสียชีวิตของ Magan Meier ชาวอเมริกา และการปลีกตัวออกจากสังคมของ David Knight ชาวแคนาดา เกิดขึ้นในไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest