Zepp เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ คู่หูดูแลสุขภาพครบวงจร

พุธ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๐๘:๐๕


สมาร์ทวอทช์ Zepp Z ผสานดีไซน์คลาสสิกและเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างลงตัว

Zepp เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ คู่หูดูแลสุขภาพครบวงจร

Zepp ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพด้วยระบบดิจิทัล จัดงานถ่ายทอดสดออนไลน์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ทวอทช์ Zepp E พร้อมเปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างสมาร์ทวอทช์ Zepp Z ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์นาฬิกาคลาสสิก ผสานงานฝีมือประณีตแบบดั้งเดิมกับวัสดุคุณภาพสูงเพื่อสร้างสรรค์สมาร์ทวอทช์พรีเมียมสุดหรู โดย Zepp Z ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถควบคุมสุขภาพร่างกายและจิตใจตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเอง

ดีไซน์พรีเมียมสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก

Zepp Z ทำจากไทเทเนียมอัลลอยชิ้นเดียว จึงมีน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อแต่แข็งแรงทนทาน นอกจากนั้นยังเคลือบนาโน NTC ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างดี มาพร้อมหน้าปัดแกะสลักเรียบหรูดูดี และดีไซน์เม็ดมะยมสุดคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกหรูหราและช่วยให้ควบคุมสมาร์ทวอทช์ได้ดั่งใจ

Zepp Z มีฟีเจอร์หน้าจอแสดงผลตลอดเวลา หรือ Always-On Display [1] ช่วยให้ดูเวลาได้ง่ายเพียงแค่ชำเลืองมอง และมี Health Key [2] ที่ช่วยให้เข้าถึงระบบวัดสุขภาพได้ทันใจ มาพร้อมความละเอียดของภาพหน้าจอระดับ 326 ppi แสดงสเปกตรัมสีระดับ 100% NTSC ให้รายละเอียดอย่างเหลือเชื่อ

คู่หูดูแลสุขภาพครบวงจร

Zepp Z ติดตามปัจจัยชี้วัดสุขภาพของผู้สวมใส่ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี AI และข้อมูลไบโอเมตริก [3] โดยเซนเซอร์ BioTracker(TM) 2.0 PPG สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจและแจ้งเตือนหากหัวใจมีอัตราการเต้นผิดปกติ [4]

นอกจากนี้ Zepp Z ยังสามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด [5] ซึ่งเป็นอีกมาตรวัดสุขภาพที่มีประโยชน์อย่างมาก

เพื่อช่วยให้ผู้สวมใส่เข้าใจข้อมูลไบโอเมตริกของตนเองอย่างง่ายดายขึ้น Zepp Z จึงมีระบบ PAI(TM) Health Assessment System [6] ที่ช่วยแปลงข้อมูลสุขภาพเป็นคะแนน หลังจากประมวลผลอัตราการเต้นของหัวใจ การทำกิจกรรม และมาตรวัดสุขภาพอื่น ๆ

Zepp Z ยังสามารถติดตามการนอนหลับของผู้สวมใส่ ทั้งช่วงหลับไม่สนิท ช่วงหลับลึก และช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM) [7] รวมถึงช่วงเวลานอนและช่วงเวลาตื่น หรือแม้แต่ช่วงนอนกลางวันระหว่าง 11.00-16.00 น. โดยจะมีการให้คะแนนคุณภาพการนอนหลับด้วย

นอกจากนี้ Zepp Z ยังสามารถวัดระดับความเครียดของผู้สวมใส่ด้วยอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นเอง

เพื่อนและผู้ช่วยออกกำลังกายอัจฉริยะ

ผู้สวมใส่สามารถตั้งค่าโหมดกีฬาแบบเรียลไทม์เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างการออกกำลังกายแทบทุกประเภท โดยสามารถแจ้งเตือนระดับการออกกำลังกายและโซนอัตราการเต้นของหัวใจในขณะออกกำลังกาย [8] และหากต้องการฟังเพลงพร้อมออกกำลังกาย Zepp Z ก็ช่วยควบคุมเพลงโปรดผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย

Zepp Z ใช้งานต่อเนื่องได้นานกว่า 2 สัปดาห์ หากใช้งานประจำวันทั่วไป [9] หรือนานกว่า 30 วัน [10] หากใช้งานเพียงโหมดพื้นฐาน

ผู้สวมใส่ Zepp Z สามารถสั่งการด้วยเสียงเพื่อโต้ตอบกับ Alexa [11] ในสมาร์ทโฟน โดยสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้าน จับเวลาหรือตั้งนาฬิกาปลุก ตรวจสอบสภาพอากาศ ฯลฯ นอกจากนี้ ตัวช่วยเสียงออฟไลน์ [12] ยังรองรับคำสั่งเสียง 58 คำสั่ง ผู้สวมใส่จึงสามารถโต้ตอบกับ Zepp Z และควบคุมได้ทุกที่ทุกเวลา

Zepp เคียงข้างคุณทุกช่วงเวลา

Zepp ก่อตั้งขึ้นในซิลิคอนแวลลีย์เมื่อปี 2553 และกลายเป็นแบรนด์ขวัญใจนักกีฬาที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะของตนเอง ในปี 2563 นี้ Zepp ได้เปิดศักราชใหม่ของภารกิจด้านสุขภาพ ด้วยความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีที่ใส่ใจมนุษย์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของคนเรา และตระหนักในศักยภาพของ IoT ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งนี้ Zepp เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี อุปกรณ์ และแอปใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในการดูแลสุขภาพของตนเอง

Zepp App คือแพลตฟอร์มจัดการสุขภาพส่วนบุคคล โดยสามารถเชื่อมกับแบรนด์ในเครือเดียวกันอย่าง Amazfit ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งสมาร์ทวอทช์ สายรัดข้อมือ และอุปกรณ์สวมใส่ โดยให้บริการผ่านระบบคลาวด์

Zepp Z สมาร์ทวอทช์ที่มาพร้อมบอดี้โลหะน้ำหนักเบา ระบบวัดสุขภาพดิจิทัล และหน้าจอที่ปรับแต่งได้ง่าย เริ่มจำหน่ายผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ www.zepp.com ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน ในราคาเริ่มต้น 349 ดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิง

[1] ฟีเจอร์ "Always-On Display" ทำให้นาฬิกาสามารถแสดงข้อมูลเมื่อเปิดหน้าจอ และแสดงเวลาต่อเนื่องแม้ปิดหน้าจอ โดยผู้สวมใส่สามารถตั้งค่าได้ที่โหมด AOD[2] รองรับการอัปเดตผ่าน OTA โดย Health Key จะใช้งานได้เมื่อนาฬิกาอยู่ในหน้าโฮมสกรีน ผู้สวมใส่สามารถปรับแต่ง Health Key เพื่อวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด หรือระดับความเครียด[3] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลและการวัดผลทั้งหมดใช้ในการอ้างอิงเท่านั้น และไม่ควรใช้ในการวินิจฉัยหรือการติดตามอาการทางการแพทย์[4] ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง ผู้สวมใส่ต้องตั้งค่าและเปิดฟีเจอร์ "ตรวจสุขภาพหัวใจ" โดยค่าต่ำสุดสามารถตั้งไว้ที่ 1 นาที ฟีเจอร์นี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น โดยไม่สามารถใช้ในวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานเพื่อการวินิจฉัยทางการแพทย์ ผู้สวมใส่ควรปรึกษาแพทย์หากรู้สึกไม่สบาย[5] ระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดอาจส่งผลต่อระดับออกซิเจนในอวัยวะต่าง ๆ หากต่ำไปก็อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ปวดหัว หรือหัวใจหยุดเต้น อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลที่ได้จึงใช้ในการอ้างอิงเท่านั้น และไม่ควรใช้ในการวินิจฉัยหรือการติดตามอาการทางการแพทย์ นอกจากนี้ ความแม่นยำของข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนหากเซ็นเซอร์สัมผัสกับผิวที่มีรอยสักหรือมีสีเข้ม และการวัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดต้องวางแขนให้นิ่งด้วย[6] ผลการศึกษา HUNT Fitness Study ระบุว่า ผู้ที่มีคะแนน PAI(TM) ตั้งแต่ 100 คะแนนขึ้นไป มีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งนี้ HUNT Fitness Study จัดทำโดยศาสตราจารย์ Ulrik Wisloff จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนอร์เวย์ โดยใช้เวลาศึกษายาวนานกว่า 35 ปี และมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 230,000 คน[7] ช่วงหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว (REM) เป็นพื้นฐานของจังหวะทางชีวภาพตามปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยคิดเป็น 20-25% ของวงจรการนอนหลับตลอดคืน และสามารถดูได้จากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของดวงตา คลื่นไฟฟ้าสมองความถี่ผสมแอมพลิจูดต่ำ และการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ ในการติดตามวงจร REM นั้น ผู้สวมใส่ต้องเปิดโหมดตัวช่วยการนอนหลับและโหมดวัดอัตราการเต้นของหัวใจ[8] ไม่สามารถใช้ออกกำลังกายใต้น้ำได้[9] เงื่อนไขการทดสอบ: เปิดโหมดวัดอัตราการเต้นของหัวใจและโหมดติดตามการนอนหลับ รวมถึงวัดระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดวันละสองครั้ง ทุกวันมีการเปิดหน้าจอเพื่อแสดงข้อความ 150 ข้อความ และผู้สวมใส่ยกข้อมือเพื่อดูเวลา 30 ครั้ง ส่วนการใช้งานอื่น ๆ ไม่เกิน 5 นาทีในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ ผู้สวมใส่ออกกำลังกายสามครั้งต่อสัปดาห์ โดยแต่ละครั้งวิ่ง 30 นาที และเปิดใช้งาน GPS ทั้งนี้ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และระยะเวลาใช้งานจริงอาจแตกต่างจากผลการทดสอบเล็กน้อย[10] อายุการใช้งานของแบตเตอรี่เมื่อปิดบลูทูธ ฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และฟีเจอร์อื่น ๆ โดยผู้สวมใส่ยกข้อมือเพื่อเปิดหน้าจอ 100 ครั้งต่อวัน ทั้งนี้ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และระยะเวลาใช้งานจริงอาจแตกต่างจากผลการทดสอบเล็กน้อย[11] Alexa รองรับการอัปเดตผ่าน OTA อย่างไรก็ตาม Alexa ไม่ได้มีให้บริการในทุกประเทศ/ดินแดน สามารถดูรายชื่อประเทศ/ดินแดนที่มี Alexa ให้บริการ รวมถึงภาษาที่รองรับ และวิธีการใช้ Alexa บน Zepp Z ได้ที่ support.zepp.com [12] ตัวช่วยเสียงออฟไลน์รองรับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษเท่านั้น

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1335391/Zepp_Z_A_Brand_New_Icon_with_a_titanium_alloy_body.jpg

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest