KWG ผุดโครงการใหญ่ 'มิกซ์-ยูส’ ที่ฉะเชิงเทราและอยุธยา เชื่อมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจนโยบาย “วันเบลต์ วันโรด” ของจีนกับเขตพื้นที่ EEC ของไทย

พฤหัส ๑๙ เมษายน ๒๐๑๘ ๑๕:๔๑
เครือธุรกิจชั้นนำฮ่องกง-จีน 'คิง ไว กรุ๊ป' ดำเนินการสร้างเมืองใหม่แบบ 'มิกซ์-ยูส' ที่ฉะเชิงเทราและอยุธยา ตามต้นแบบธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จในเซี่ยงไฮ้ ตั้งเป้าการเป็นเมืองที่รองรับสังคมผู้สูงอายุและศูนย์กลางเมืองใหม่แห่งสถาบันการศึกษาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการกระจายความเจริญ โดยเฟสแรกของโครงการฉะเชิงเทราเตรียมทุ่มงบราว 3,000 ล้านบาท

คิง ไว กรุ๊ป เดินหน้าเริ่มโครงการก่อสร้างเมืองใหม่ขนาดใหญ่ในประเทศไทยทั้ง 2 แห่ง ตามต้นแบบธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีในเซี่ยงไฮ้ นั่นคือการวางแผนพัฒนาและขยายเมืองใหม่เพื่อรองรับกับการเติบโตและการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยที่ไม่ต้องรอให้การคมนาคมหรือการขนส่งที่สะดวกสบายเข้าไปถึงก่อน เป็นแผนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่วางเป้าหมายไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจน เพื่อกำหนดผังเมืองที่รองรับกับการใช้งานจริงอย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด

มร.แอนโทนิโอ ฮาง ตัท ชาน รองประธานกรรมการ บริษัท คิง ไว กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทางกลุ่มกำลังดำเนินการก่อสร้างเมืองใหม่ขนาดใหญ่สองแห่งในไทย ที่ได้ต้นแบบทางธุรกิจจาก "King Wai City Oasis Baoshan" และ "IMX Shanghai Hongqiao Project" ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจในเซี่ยงไฮ้ โดยปักหมุดดำเนินการสร้างแล้วในเขตจังหวัดฉะเชิงเทราและอยุธยา ซึ่งโครงการแรกที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ขนาด 1,997 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ศูนย์ดูแลสุขภาพ ศูนย์รองรับผู้สูงอายุ พื้นที่สันทนาการและการท่องเที่ยว รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้า มีแนวคิดหลักเป็นสมาร์ทซิตี้ที่ทันสมัย สอดรับกับนโยบายของจังหวัดที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเมืองและยกระดับตนให้มีความทันสมัย พัฒนาทัดเทียมกับเมืองใหญ่อื่นๆ โดยเฟสแรกของโครงการจะทุ่มงบประมาณราว 3,000 ล้านบาท ส่วนโครงการที่จังหวัดอยุธยา มีพื้นที่ราว 2,500 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อยู่อาศัย สถาบันการศึกษา และคอมมิวนิตี้ไลฟ์สไตล์ มีแนวคิดหลักในการเป็นพื้นที่เพื่อการศึกษาและเป็นที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบายครบครัน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านทางฟังก์ชั่นที่ออกแบบไว้ของพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ มร.แอนโทนิโอ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "สำหรับประเทศไทยนั้นมีโอกาสด้านการลงทุนที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการเป็นส่วนหนึ่งที่เส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 หรือ "Belt and Road Initiative" ของจีน ไทยยังตั้งอยู่ในจุดภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม ถือเป็น ฮับ (Hub) ที่สำคัญมากในแถบอาเซียน และในปัจจุบันจีนเองก็ไม่ได้สร้างกำแพงเมืองที่ยิ่งใหญ่เพื่อป้องกันผู้ใด แต่หันมาปรับตัวเชื่อมโยงตนกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกับสร้างโอกาสด้วยโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนามิตรประเทศ"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๕๔ กทม. เตรียมปรับปรุงพัฒนาระบบการให้บริการงานทะเบียนสำนักงานเขต
๑๗:๑๗ สมาคมเพื่อนชุมชน ส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถ่ายทอดองค์ความรู้ แนวทางลดก๊าซเรือนกระจก
๑๗:๔๑ กทม. เร่งติดตั้งเสา-ตะแกรงรั้วกั้นเกาะกลางถนนวิสุทธิกษัตริย์ที่ถูกรถชนเสียหาย
๑๗:๐๔ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ขอเชิญชวนนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมงาน M-Sci JOB FAIR 2024 หางานที่ใช่ สร้างงาน สร้างโอกาส วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น. ณ หอประชุม รักตะกนิษฐ
๑๗:๒๘ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค นำเสนอโซลูชั่นดิจิทัลลุยตลาดอาคารอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน
๑๖:๒๙ จิม ทอมป์สัน เผยทิศทางการพา แบรนด์ผ้าเมืองไทย ผงาดเวทีโลก ส่องกลยุทธ์การครีเอตผลงานคุณภาพให้สอดรับเทรนด์สิ่งทอระดับสากล
๑๖:๓๘ อาดิดาสจับมือนักฟุตบอลระดับตำนาน ส่งแคมเปญ 2006 JOSE 10 สร้างแรงบันดาลใจและความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดให้กับเหล่านักฟุตบอลเยาวชนหญิง
๑๖:๑๐ Maison Berger Paris พาชมเครื่องหอมบ้าน 2 คอลเลคชั่นใหม่ MOLECULE และ JOY จัดเต็มเซ็ตของขวัญ ครบทุกรูปแบบความหอม สร้างบรรยากาศหรูหราพร้อมกลิ่นหอมบริสุทธิ์
๑๖:๕๗ กทม. เตรียมระบบเฝ้าระวัง-ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 หลังเทศกาลสงกรานต์
๑๕:๑๕ NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน Thailand Golf Dive Expo plus OUTDOOR Fest