การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากนักพัฒนาไทย นักพัฒนาอิสระ รวมถึงนิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนกว่า 200 คน จาก 65 ทีม มีเพียง 12 ทีมที่ผ่านเข้ารอบกิจกรรม 30-Hour Hackathon เพื่อเข้าร่วมแสดงศักยภาพพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนไอเดียตลอดจนความคิดเห็นต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ โดยในวันแรกของกิจกรรม ผู้เข้าแข่งขันยังได้รับฟังการบรรยายหัวข้อที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปต่อยอดในการพัฒนานวัตกรรมบนเทคโนโลยีบล็อกเชนจากผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ได้แก่ สถาพน พัฒนะคูหา CEO บริษัท SmartContract Thailand ในหัวข้อ Blockchain Do's and Don'ts และทชา ปัญญาเนรมิตดี Project Lead บริษัท Alpha Finance Lab ในหัวข้อ Decentralized Finance and Beyond นอกจากนี้ผู้เข้าแข่งขันยังได้รับคำแนะนำเพื่อไปพัฒนาด้านนวัตกรรมและธุรกิจจากเหล่า Mentors ผู้เชี่ยวชาญในวงการบล็อกเชนระดับประเทศ ได้แก่ อาจารีย์ ศุภพิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ไพศาล เกียรติธนานันท์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดิจิทัล เวนเจอร์ส สาวิทธ์ ตริสิริสัตยวงศ์ Integration Lead บริษัท Band Protocol นัฐพล นิมากุล Chief Technology Officer บริษัท Kulap มุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer และ อรรณวุฒิ ลีไพศาลสุวรรณา Technology Lead บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด อันนำไปสู่การเป็นคอมมูนิตี้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถโดดเด่นด้านบล็อกเชน และเป็นการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศที่มีความสำคัญต่อการวางรากฐานและขับเคลื่อนธุรกิจโลกอนาคตด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนให้กับประเทศไทยต่อไป
3 ทีมที่คว้ารางวัลมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 363,000 บาท จากโครงการ SCB 10X BANGKOK BLOCKATHON 2021: FINANCE AND BEYOND ได้แก่
- รางวัลชนะเลิศ ซึ่งได้รับรางวัล 0.1 Bitcoin ได้แก่ ทีม KillSwitch เจ้าของไอเดีย Decentralized Application ที่ช่วยให้นักลงทุนที่ทำ Yield Farming สามารถถอน Liquidity Position ออกจาก Farm และขายเหรียญทิ้งทันทีในกรณีที่ราคาของเหรียญตกลงอย่างรวดเร็ว หมดปัญหาเรื่องการถอนเงินไม่ทันตอนราคาตก อีกทั้งยังลดจำนวนธุรกรรมที่ต้องทำ จากปกติ 3 ครั้งใน 3 แพลตฟอร์มให้เหลือเพียงครั้งเดียวในแพลตฟอร์มเดียว
- รองชนะเลิศอันดับ 1 ซึ่งได้รับรางวัล 2 Ethereum ได้แก่ ทีม TrustPass เจ้าของไอเดีย แพลตฟอร์มยืนยันผู้เข้าร่วมงานอีเว้นท์ในยุคโควิดแพร่ระบาด ที่รวบรวม Cryptocurrency ของผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานอีเว้นท์ไปฝากในกองทุน (Stake) ในกรณีที่มีผู้เข้าร่วมงานติดโควิด หรือเกิด Super Spreader เงินส่วนนั้นจะถูกนำมาให้กระทรวงสาธารณสุขใช้สำหรับรักษาผู้ที่ได้รับเชื้อโควิดจากการเข้าร่วมงานอีเว้นท์นั้น อีกทั้งเป็นเงินทุนในการติดตามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมงานอีเว้นท์เพื่อตรวจสอบหาเชื้อโควิด หากภายในระยะเวลาที่กำหนดไม่มีผู้ติดเชื้อ เงินในกองทุน (Stake) จะถูกส่งคืนให้ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานอีเว้นท์ แพลตฟอร์มนี้เป็นการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้อย่างลงตัว อีกทั้งยังนำ Smart Contract ของการสร้างอีเว้นท์มาใช้ร่วมกับการลงทุน (Stake) ได้อย่างน่าสนใจ
- รองชนะเลิศอันดับ 2 ซึ่งได้รับรางวัล 1,300 Alpha ได้แก่ ทีม Estate-Onblock เจ้าของไอเดีย NFT แพลตฟอร์ม ที่ให้นักลงทุนได้ซื้อ NFT ที่จำลองสถานที่สำคัญของประเทศต่าง ๆ เช่น หอไอเฟล วัดพระแก้ว เป็นต้น โดยนักลงทุนต้องซื้อเหรียญประเทศต่าง ๆ เพื่อไป Farm NFT สถานที่สำคัญ ๆ ถือเป็นการลงทุนใน Cryptocurrency รูปแบบใหม่ นอกจากนี้ผู้ลงทุนสามารถสะสม NFT สถานที่สำคัญที่ลงทุนไว้เพื่อเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ (NFTs Gallery) ให้เข้าชมได้อีกด้วย จุดเด่นของไอเดีย คือการผสมผสานเรื่อง NFT และ Yield Farming เข้าด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ อีกทั้งยังโดดเด่นเรื่องการทำ Smart Contract ในด้าน Farm NFT ซึ่งยังเป็นเรื่องใหม่ในโลกบล็อกเชน มาพัฒนาในระยะเวลาที่จำกัด
ที่มา: ธนาคารไทยพาณิชย์