บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิตจัดจำหน่ายและให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยแบ่งเป็นรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า และงานด้านบริการ 232.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter และ Solar Inverter ของ SUNGROW 40 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าของ บริษัท คิวโซลาร์ 1 จำกัด ขนาด 8.6 MW อยู่ที่ 11.56 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 14.91 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนที่ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาระดับการเติบโตของรายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากบริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนและควบคุมความเสี่ยงภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะประสบปัญหาเรื่องการขนส่งของภาคอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้การส่งออกไปต่างประเทศมีการชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อภาพรวมของกำไรในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ด้านธุรกิจเทรดดิ้งนั้น บริษัทฯ ยังคงเดินเกมกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ "QTC" เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงวางกลยุทธ์ในการสร้างโอกาสการลงทุน เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมองว่าไตรมาส 2/2565 ภาพรวมเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับภาครัฐบาลเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนโครงการต่างๆจะทยอยกลับมาดำเนินสู่ภาวะปกติ จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลบวกต่อ QTC ในทางอ้อม เนื่องจากความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับการรองรับความต้องการใช้ที่จะเกิดขึ้น พร้อมเร่งเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน หรือ Superior Long-term Performance แบบเชิงรุก ภายใต้กลยุทธ์การสร้างมูลค่าเพิ่ม 3 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย
1.ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า QTC เตรียมแผนการเข้าประมูลงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีโอกาสได้งานดังกล่าว ประมาณ 300 ล้านบาท หรือประมาณ 10 % ของมูลค่างานโดยรวม ล่าสุด บจ. คิว โซลาร์1 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในเครือและเป็นตัวแทนจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯ ได้คว้างานจาก กฟภ. มูลค่ารวม 155 ล้านบาท โดยจะทยอยส่งมอบได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป
2.ธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter และ Solar Inverter ของ SUNGROW โดยบริษัทฯ ยังทำการตลาดเชิงรุกต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการให้บริการและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการเป็น Distribution Partner ของอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะขนาดเล็กสำหรับที่อยู่อาศัย (Smart EV Charger) ภายใต้แบรนด์ "Wallbox" จากประเทศสเปน ซึ่งปัจจุบัน ได้มีการทำการตลาดไปแล้วบางส่วน และคาดว่าจะเริ่มเห็นการจำหน่ายในไตรมาส 3/2565
3.ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายใต้การลงทุนร่วมกับ บมจ. ยูเอซี โกลบอล (UAC) ภายใต้ "พีพีดับบลิวอี"(PPWE) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการลงทุนสร้างในเฟสแรก จำนวน 4 สถานี หรือ 12 หัวจ่าย ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง จังหวัดนครราชสีมา 2 แห่ง และจังหวัดจันทบุรี 1 แห่ง โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/2565 พร้อมรับรู้รายได้เข้ามาทันที
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร QTC กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากยุทธศาสตร์หลักในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนแล้ว บริษัทฯ ได้ศึกษาเพื่อต่อยอดการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อตอกย้ำสู่การก้าวเป็นผู้นำ "ด้านพลังงาน" ให้สอดคล้องกับนโยบายบริษัทฯ ในการสร้างอัตราการเติบโตเฉลี่ยแต่ละปีให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 นี้ QTC ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมที่ระดับ 1,200 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทฯ มียอดมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาสแรกแล้วจำนวน 400 ล้านบาท และยังไม่รวมงานใหม่ๆ อย่างการจำหน่าย Smart EV Charger ภายใต้แบรนด์ "Wallbox" ที่คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้ และรายได้จากธุรกิจ EV Charging Station ที่จะเปิดเฟสแรก 4 แห่งในไตรมาส 3/2565
ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์