นายอัครวิทย์ สุกใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AF ผู้นำด้านการให้บริการสินเชื่อแฟคตอริ่ง และผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทอื่น ทั้งในรูปแบบระยะสั้น และระยะยาว เพื่อธุรกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ถึงแม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศจะมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ทำให้คาดว่าจะเริ่มส่งผลกระทบมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการพัฒนาธุรกิจให้มีขอบเขตกว้างขึ้น มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโต สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน สร้างพลังงานสะอาด ตลอดจนสนับสุนนธุรกิจบริการทางการแพทย์ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (SD) คำนึงถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ทำให้ธุรกิจยังคงรักษาระดับการเติบโตใกล้เคียงปีก่อนหน้า โดยผลการดำเนินงาน ณ สิ้น ไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 61.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.03 ล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์การป้องกันการเกิดหนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ด้วยกระบวนการพิจารณาเครดิต (Underwriting) และติดตาม (Monitoring) คุณภาพสินเชื่ออย่างรัดกุม จากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของลูกค้าและลูกหนี้การค้า ทั้งก่อนและหลังอนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนมีการกำหนดนโยบายเครดิตเพื่อเป็นมาตรฐานในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตกำหนดให้มีการทบทวนเครดิตลูกค้าและลูกหนี้การค้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมทั้งมีการติดตามและปรับปรุง กระบวนการด้านเครดิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการปฏิบัติงาน และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจแต่ละช่วงเวลา โดยอาศัยเทคโนโลยีและฐานข้อมูลในการบริหารความเสี่ยง ทำให้ที่ผ่านมามีคุณภาพการบริหารสินเชื่ออยู่ในระดับดี
นอกจากนี้ ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อผลประกอบการ แต่บริษัทฯ มีมาตรการในการลดความเสี่ยง โดยจัดหาแหล่งเงินทุนและคิดอัตราผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความเสี่ยง และต้นทุนการเงิน เพื่อให้บริษัทฯ สามารถรักษาส่วนต่าง (Spread) ของดอกเบี้ยได้ตามที่บริษัทฯ มุ่งหวัง เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปรับตัวเมื่อเกิดภาวะอัตราดอกเบี้ยผันผวน
ทั้งนี้ด้วยการบริหารที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องและได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสถาบันการเงิน และยังคงมีพันธมิตรทางธุรกิจและหาพันธมิตรรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถรองรับการดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการบริหารสภาพคล่องระหว่างต้นทุนและผลตอบแทนอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
