ทั้งนี้ สปภ. ร่วมกับสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะทำความสะอาดพื้นผิวการจราจร โดยนำทรายมาเกลี่ยทับผิวจราจรเพื่อซับคราบน้ำมัน เก็บกวาดและล้างผิวจราจรให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติในเวลาประมาณ 14.30 น. ของวันที่ 24 พ.ค. 68 พร้อมทั้งจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และรถปฏิบัติการตอบโต้สารเคมีและวัตถุอันตรายพร้อมปฏิบัติการระงับเหตุอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะอุบัติภัยจากสารเคมีอันตราย ก๊าซ และวัตถุไวไฟประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้ประชาชน ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเหตุอุบัติภัยจากสารเคมี หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายดลจิตร์ เสรีรักษ์ ผู้อำนวยการเขตราษฎร์บูรณะ กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้เข้าพื้นที่ เพื่อนำกระสอบทรายปิดท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันไหลลงท่อระบายน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีดับเพลิงราษฎร์บูรณะและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ใช้โฟมและน้ำฉีดบริเวณรถบรรทุกน้ำมันป้องกันไม่ให้เกิดประกายไฟ เนื่องจากมีน้ำมันไหลออกมาจำนวนมาก เกรงจะเกิดเหตุไฟไหม้ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยได้เคลื่อนย้ายประชาชนที่พักอาศัยบริเวณดังกล่าวไปพักชั่วคราว ณ ห้องประชุม สำนักงานเขตฯ ต่อมาในเวลา 06.00 น. บริษัทขนส่งน้ำมันได้นำรถเครน 2 คัน เข้าพื้นที่เพื่อยกรถบรรทุกน้ำมันขึ้นและดำเนินการถ่ายน้ำมันไปยังรถอีกคัน ก่อนเคลื่อนย้ายรถที่ประสบอุบัติเหตุออกจากจุดเกิดเหตุ และในเวลาประมาณ 13.00 น. ได้ดำเนินการสูบคราบน้ำมันและโฟมออกจากพื้นผิวจราจรจนแล้วเสร็จ
หลังจากนั้น สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทขนส่งน้ำมัน ทำความสะอาดพื้นผิวถนนบริเวณจุดเกิดเหตุและใช้รถกำจัดของบริษัทขนส่งน้ำมันดูดคราบน้ำมันที่ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำจนหมด พร้อมทั้งเติมน้ำยาปรับสภาพลงในท่อระบายน้ำเพื่อบรรเทากลิ่นที่ตกค้าง โดยสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติในเวลา 14.30 น. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังคงมีกลิ่นน้ำมันหลงเหลืออยู่ สำนักงานเขตฯ จึงแจ้งให้บริษัทขนส่งน้ำมันเข้าดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมในวันที่ 26 พ.ค. 68 โดยใช้เครื่องเป่าลมอัดอากาศลงในท่อระบายน้ำทั้งสองฝั่งถนน เพื่อไล่กลิ่นน้ำมันที่ตกค้าง ปัจจุบันกลิ่นได้เจือจางลง ประชาชนสามารถกลับมาพักอาศัยและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติแล้ว