จุดเด่นของความร่วมมือ Global Cargo Joint Business คือความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อเส้นทางและความจุในการบรรทุกสินค้ามากมายที่ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง อนุทวีปอินเดีย ยุโรป และอเมริกา โดยความร่วมมือนี้จะเปิดเส้นทางการขนส่งใหม่ ๆ ที่ไม่ได้มีอยู่แค่ในสายการบินเดียว อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ทั่วโลก ในช่วงระยะแรกจะมุ่งเน้นตลาดขนส่งสินค้าหลักก่อน จึงจะเริ่มขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในระยะถัดไปตามการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สายการบินทั้งสามจะร่วมกันปรับระบบ ขั้นตอนการทำงาน และข้อเสนอทางการค้าให้สอดคล้องกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้การเปิดตัวให้บริการสำหรับลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับการพัฒนามาให้เข้ากับลูกค้า โซลูชันดิจิทัลที่ทันสมัยยิ่งขึ้น รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการสะสมคะแนนร่วมกันภายใต้โปรแกรมสมาชิกสะสมไมล์
การร่วมมือของทั้งสามสายการบินจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ในการขนส่งสินค้าทั้งในตัวเครื่องบินและในช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องผ่านเครือข่ายเส้นทางรวมของพันธมิตรให้ได้มากที่สุด เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า นอกจากนี้ การประสานงานด้านการจัดการภาคพื้นดินและการขนส่งทางรถบรรทุกอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้ลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งภายใต้ความร่วมมือนี้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทั้งสามสายการบินเตรียมพร้อมลงนามข้อตกลงรายบุคคลกับโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ (World Food Programme) ซึ่งเป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ต่อสู้กับความหิวโหย โดยในงาน Air Cargo Europe ทั้งสามสายการบินได้ประกาศแผนสนับสนุนพื้นที่ขนส่งสินค้าฟรีรวม 1,000 ตัน เพื่อช่วย WFP ในการจัดส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงพันธกิจร่วมกันของ Global Cargo Joint Business ในการสนับสนุนภารกิจด้านมนุษยธรรม และเป้าหมายระดับโลกในการยุติความหิวโหย
มาร์ค ดรัช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคาร์โก กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้หารือเกี่ยวกับการเปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญในงาน Air Cargo Munich ความร่วมมือนี้จะช่วยให้เราสามารถมอบบริการและประสิทธิภาพที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งยกระดับโซลูชันด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศให้ดีที่สุด นอกจากนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้เรามีส่วนร่วมอย่างจริงจังในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ด้วยการสนับสนุนโครงการอาหารโลก (WFP) โดยเราจะใช้เครือข่ายที่แข็งแกร่งของเราร่วมกัน เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความร่วมมืออย่างแท้จริง"
เดวิด เชพเพิร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IAG คาร์โก เสริมว่า "ความร่วมมือในรูปแบบธุรกิจร่วมครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับลูกค้าของเรา ด้วยการสร้างเครือข่ายเดียวที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์ เรากำลังเปิดประตูสู่โอกาสทางการค้ามากมาย เครือข่ายใหม่นี้จะมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และประสานงานได้ดีกว่าข้อตกลงร่วมระหว่างสายการบินแบบดั้งเดิม ขณะที่เรามุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการสำหรับลูกค้า เราก็ให้ความสำคัญกับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนที่เราดำเนินงานอยู่เช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราภูมิใจที่ได้มีส่วนสนับสนุนภารกิจสำคัญของโครงการอาหารโลก (WFP)"
มาร์ค เจสัน โธมัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASkargo เผยว่า "ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของ MASkargo และอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศทั่วโลก ด้วยความร่วมมือกับ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก และ IAG คาร์โก เราสามารถขยายขอบเขตการให้บริการและเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งได้อย่างไร้รอยต่อครอบคลุมทั่วทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา นี่ไม่ใช่แค่การขยายเครือข่าย แต่คือการยกระดับรูปแบบการขนส่งสินค้าทั่วโลก ในฐานะผู้นำด้านการขนส่งสินค้าในภูมิภาค MASkargo ยึดมั่นในพันธกิจในการเชื่อมโยงทวีปเอเชียกับโลกมาโดยตลอด และความร่วมมือครั้งนี้จะพาเราไปได้ไกลยิ่งขึ้น พร้อมมอบคุณค่า ขอบเขตการให้บริการ และประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ เรายังภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนภารกิจของโครงการอาหารโลก สอดคล้องกับความเชื่อของเราที่ว่า โลจิสติกส์คือพลังในการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ"
เวอร์จิเนีย วิลลาร์ อาร์ริบาส รองผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือกับภาคเอกชน โครงการอาหารโลก (WFP) กล่าวว่า "ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของภาคเอกชนในการเร่งการตอบสนองด้านมนุษยธรรมให้เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที เรารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมงานกับ กาตาร์ แอร์เวย์ส คาร์โก, IAG คาร์โก และ MASkargo เพื่อพัฒนารูปแบบความร่วมมือที่จะช่วยให้ WFP สามารถส่งมอบความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมในวงกว้างยิ่งขึ้น"
พันธมิตรทั้งสามยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องและเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวตามแผนในช่วงปลายปี 2568 โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดความคืบหน้าเพิ่มเติมเมื่อเข้าใกล้ช่วงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ