เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าปักธงแบรนด์ไทยในสิงคโปร์ วางเกมรุกด้วยแผนขยายไลน์สินค้า 'I LOVE THAILAND' ผ่านเครือข่ายแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป กว่า 100 รายการ ในปี 2569 หลังพบกระแสสินค้าไทยดีเกินคาด

บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์ท็อปส์ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์ ออนไลน์ ท็อปส์ แคร์ และมัทสึคิโยะ เดินหน้ารุกตลาดสิงคโปร์อย่างจริงจัง ภายหลังประสบความสำเร็จในการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดสิงคโปร์ในระยะแรก เดินหน้าต่อยอดความร่วมมือกับ NTUC FairPrice Co-operative Limited (FPG) ผู้นำค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ภายใต้บันทึกข้อตกลง (MOU) ที่ได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือน กันยายน 2567 โดยความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งเน้นการขยายไลน์สินค้าไทยภายใต้คอนเซปต์ "I LOVE THAILAND" เสริมดีมานด์และศักยภาพของตลาดรีเทลสิงคโปร์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 100 รายการในปี 2569

Tuesday 10 June 2025 11:33

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า สิงคโปร์เป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูงสุดในภูมิภาค เพราะนอกจากจะเป็นศูนย์กลางค้าปลีกระดับพรีเมียมที่มีการแข่งขันสูง สิงค์โปร์ยังถือเป็นหน้าด่านสำคัญในการขยายแบรนด์และสินค้าไทยสู่ตลาดเอชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างดี ในปีที่ผ่านมา ได้เห็นสัญญาณบวกจากการส่งออกสินค้าไทยของเราไปยังสิงค์โปร์อย่างชัดเจนจาก 3 ปัจจัยสนับสนุน อันได้แก่ 1) ความนิยมและเชื่อมั่นในสินค้าไทยของผู้บริโภคชาวสิงคโปร์ซึ่งมีความคุ้นเคยและเปิดรับเป็นอย่างดีจากวัฒนธรรมที่ใกล้ชิดและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ 2) ภูมิทัศน์ตลาดค้าปลีกระดับพรีเมียมของสิงคโปร์ที่สอดรับกับคุณภาพและภาพลักษณ์ต่อแบรนด์สินค้า ภายใต้เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป และ 3) พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทรนด์ 'ไฮเปอร์เนสติ้ง' (Hyper-Nesting) ที่ให้ความสำคัญในการเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตภายในบ้าน โดยเฉพาะในด้านอาหาร ขนม และของใช้ที่มีคุณภาพและครบครัน

ด้าน นายวิปุล ชาวลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป กล่าวว่า "ชาวสิงคโปร์มีความ ชื่นชอบในอาหารไทยเป็นอย่างมาก ในฐานะผู้นำค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการของเรา และจากความร่วมมือกับเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป นี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เราได้มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกๆ วันของผู้บริโภคให้ดีขึ้น ด้วยการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดจากประเทศไทยสู่มือผู้บริโภคในสิงคโปร์"

ความร่วมมือระหว่างเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป และแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป เดินหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยผลตอบรับที่ดี เห็นได้จาก ยอดขายสินค้า 'I Love Thailand' ที่มีอัตราเติบโตสูงถึง 20% ต่อเนื่องทุกเดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นมา และปัจจุบัน ได้มีการวางจำหน่ายสินค้า 'I Love Thailand' ที่ร้านภายใต้เครือข่ายของแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป กว่า 87 สาขาทั่วประเทศสิงคโปร์ ครอบคลุมกว่า 50 รายการในหลากหลายหมวดหมู่ อาทิ ผลไม้ ขนมขบเคี้ยว (เช่น ข้าวแต๋นกรอบ ทองม้วน) และเครื่องปรุงรสสไตล์ไทย รวมถึงน้ำจิ้มและซอสปรุงอาหารต่าง ๆ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบวัฒนธรรมการบริโภคแบบไทยโดยเฉพาะ โดยมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและกระตุ้นยอดขาย โดยกระแสตอบรับในช่วงเริ่มต้น ได้สร้างแรงผลักดันให้ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป เดินหน้าขยายไลน์สินค้า "I LOVE THAILAND" ให้ครบกว่า 100 รายการ ภายในปี 2569 นอกจากนี้ เพื่อสร้างสีสันและดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคชาวสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง แฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป ได้จัดงาน Thai Fair ภายใต้ธีม "I LOVE THAILAND" ร้านภายใต้เครือข่ายของแฟร์ไพรซ์ กรุ๊ป จนถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2568 โดยได้รับเกียรติจาก เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสิงคโปร์ และตัวแทนจากภาคธุรกิจการค้าร่วมงานอย่างเป็นทางการ สะท้อนถึงแรงสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในความร่วมมือระดับทวิภาคีครั้งนี้

"การต่อยอดความร่วมมือกับไพรซ์ กรุ๊ป ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายศักยภาพเครือข่ายค้าปลีกระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านการแลกเปลี่ยนสินค้า กลยุทธ์ และความเชี่ยวชาญซึ่งกันและกัน โดยไม่เพียงส่งเสริมการเติบโตของแบรนด์ไทยในตลาดต่างประเทศ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสสินค้าคุณภาพจากต่างประเทศเช่นกัน โดยเรามีแผนในการนำเข้าสินค้าจากแฟร์ไพรซ์มาจำหน่ายในประเทศไทยช่วงปลายไตรมาสที่สามของปีนี้ นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าว ยังตอกย้ำบทบาทของของเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ในฐานะผู้นำค้าปลีกที่มีพันธกิจชัดเจนในการผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs และแบรนด์ท้องถิ่น ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค" นายสเตฟาน กล่าวสรุป

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tops.co.th, เฟซบุ๊ก TopsThailand, หรือ แอปพลิเคชันไลน์ @TopsThailand