รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศาสตร์ ทรวงอกเฉพาะทางด้านการผ่าตัดส่องกล้องในช่องทรวงอก โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่า สำหรับโรคมะเร็งปอดยังคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตในประเทศไทย จากวารสารทางการแพทย์ได้พบเจอว่า มีผู้ป่วยชาวเอเชียที่ไม่สูบบุหรี่เป็นมะเร็งปอด สัดส่วนถึง 30-60 เปอร์เซ็นต์ โดยแนวทางคัดกรองผู้ที่ไม่สูบบุหรี่เป็นประเด็นที่ซับซ้อน เพราะปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สูบบุหรี่หรือเคยสูบหนักมาก่อน ยกตัวอย่าง จากคณะทำงานบริการป้องกันของสหรัฐอเมริกา (USPSTF) แนะนำให้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบความเข้มต่ำ (Low-Dose CT หรือ LDCT) ปีละครั้ง สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ผู้มีอายุระหว่าง 50 ถึง 80 ปี 2. มีประวัติการสูบบุหรี่กว่า 20 ปี (เช่น สูบวันละ 1 ซอง เป็นเวลา 20 ปี) และ 3.ยังสูบบุหรี่อยู่หรือเลิกสูบมาไม่เกิน 15 ปี ทั้งนี้ไม่รวมผู้ไม่เคยสูบบุหรี่ แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นตามมะเร็งปอดไม่รวมผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงอื่นก็ตาม
ในส่วนของมะเร็งปอดในกลุ่มผู้ไม่สูบบุหรี่นั้น จากข้อมูลที่ควรรู้ประมาณ 40-60 % ของมะเร็งปอดเกิดในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ซึ่งมักเกิดจากการได้รับควันบุหรี่มือสอง, การสัมผัสก๊าซเรดอน, การสัมผัสสารพิษจากงานอาชีพ (เช่น แร่ใยหิน ควันดีเซล), มลพิษทางอากาศ หรือ ครัวเรือน, ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด, การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม (เช่น EGFR, ALK) โดยมะเร็งปอดในผู้ไม่สูบบุหรี่มักเป็นชนิด อะดีโนคาร์ซิโนมา (Adenocarcinoma) ซึ่งมากกว่า 60-70% มักถูกวินิจฉัยในระยะที่ลุกลามแล้ว เพราะไม่มีการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมโดยปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ไม่สูบบุหรี่ระดับชาติหรือสากล ที่ แนะนำให้ตรวจ LDCT เป็นการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์บริเวณทรวงอกด้วยปริมาณรังสีที่ต่ำมาก ใช้เพื่อคัดกรองมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นในผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ทั่วไป โดยผลจากการตรวจ LDCT พบว่า 1. อัตราความเสี่ยงต่อประโยชน์ยังไม่ชัดเจน (ตรวจพบผลลวงบ่อย, ได้รับรังสี) และ 2.ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าช่วยให้รอดชีวิตเพิ่มขึ้นในกลุ่มความเสี่ยงต่ำ
ส่วนข้อควรระวังและประเมินก่อนตรวจ LDCT นั้น แม้จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดในกลุ่มเสี่ยงสูง แต่ก็มีข้อควรพิจารณา เช่น 1. ผลบวกลวง (False Positive) โดยอาจพบก้อนที่ไม่ใช่มะเร็ง ทำให้ต้องตรวจเพิ่มเติมหรือผ่าตัดโดยไม่จำเป็น 2.การได้รับรังสีซ้ำซ้อนและ 3.ความวิตกกังวลจากผลตรวจ โดยมีบางรายอาจมีข้อยกเว้นหรือกรณีพิเศษ อาจมีประโยชน์ต่อการคัดกรองความเสี่ยง ได้แก่ 1.ประวัติครอบครัวที่ชัดเจนว่าเคยเป็นมะเร็งปอด 2.การสัมผัสสารพิษจากสิ่งแวดล้อมหรือจากอาชีพอย่างมีนัยสำคัญและ 3.พันธุกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง กรณีเหล่านี้ควรพูดคุยกับแพทย์ และพิจารณาอย่างรอบคอบร่วมกัน โดยมากจะอยู่ในบริบทของการวิจัยหรือติดตามเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงสูง โดยปัจจุบันการใช้ฟิล์มเอกซเรย์ในการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดหรือการเจาะเลือด ยังไม่ใช่วิธีมาตรฐานที่มีความแม่นยำอีกต่อไป ฉะนั้นใครที่มีความเสี่ยง อย่าลืมไปคัดกรองมะเร็งปอดโดยการทำ LDCT กันนะครับ
หากท่านใดสงสัยต้องการคำปรึกษาสามารถสอบถามผ่านทาง inbox ได้หรือทาง lineofficial account; @lungsurgeryth