เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อไปว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ "เรียนดีมีความสุข" มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ ขับเคลื่อนยกระดับการจัดการเรียนการสอนกลุ่มวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ สร้างการเรียนรู้ให้ผู้เรียนในมิติต่างๆ เน้นย้ำสร้างประโยชน์บนพื้นที่ของสถานศึกษา และสร้างรายได้จริงให้แก่ผู้เรียน เช่น เป็นศูนย์เรียนรู้ ศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการ พัฒนาพื้นที่เรียนรู้ให้เป็นพื้นที่สร้างอาชีพให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน ผ่านการปฏิบัติจริงทั้งงานฟาร์มพืช ฟาร์มสัตว์ ประมง และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ทั้งในรูปแบบงานฟาร์มเกษตร และเป็นอาชีพเสริม นำทักษะ 3+1 คือ 3 ทักษะภาษา (ไทย จีน อักฤษ) และ 1 ทักษะดิจิทัล ให้ผู้เรียนมีสมรรถนะที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
"อาชีวะเกษตรต้องไม่ใช่แค่สถานที่เรียนรู้ แต่ต้องเป็นพื้นที่ทำงานจริง มีรายได้จริง และเป็นจุดเริ่มต้น สร้างทักษะชีวิตและการเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของประเทศ"
เลขาธิการ กอศ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ซึ่งขณะนี้มีการดำเนินการ เช่น วษท.สุราษฎร์ธานี ที่จัดพื้นที่ให้ผู้เรียนทำฟาร์มเกษตรเพื่อสร้างรายได้ระหว่างเรียน วษท.ชลบุรี ส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลังญี่ปุ่นเพื่อการส่งออก ซึ่งเป็นการพัฒนาองค์ความรู้สู่การสร้างรายได้จริง รวมถึงความร่วมมือกับสถานประกอบการด้านอุตสาหกรรมเกษตรในการสนับสนุนเครื่องมือและเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถด้านการเกษตร นอกจากนี้ สอศ. ยังผลักดันการจัดการเรียนสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี 100 % เพื่อส่งเสริมให้น้องๆ อาชีวะได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง สร้างการศึกษาเพื่ออาชีพ ซึ่งตลาดแรงงานยังมีความต้องการกำลังคนอาชีวะในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาหลักสูตรรูปแบบต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์กับบริบทของสถานประกอบการ และการจัดการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์ชุมชน เช่น การจัดการเรียนการสอนระยะสั้น โครงการอาชีวศึกษาเพื่อการพัฒนาชนบท (อศ.กช.) สร้างเกษตรกรให้มีคุณวุฒิวิชาชีพเกษตรกร ระดับ ปวช. และพัฒนาความรู้ตลอดจนทักษะอาชีพทางเกษตร พร้อมปลูกฝังให้ผู้เรียนมีทักษะวิชาการวิชาชีพและทักษะชีวิต เติบโตอย่างเข้มแข็ง สร้างจิตอาสาให้กับน้องๆ เป็นเมล็ดพันธุ์อาชีวะที่แข็งแกร่ง มีสมรรถนะทักษะและคุณภาพตามเป้าหมายของอาชีวะ เพื่อขับเคลื่อนประเทศอย่างเข้มแข็งต่อไป