หัวเว่ยได้รับการจัดอันดับเป็น "ผู้นำ (Leader)" ใน Gartner(R) Magic Quadrant(TM) สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายแบบสายและไร้สายสำหรับองค์กร ปี 2568 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยหัวเว่ยยังคงเป็นผู้จำหน่ายเพียงรายเดียวจากนอกเขตภูมิภาคอเมริกาเหนือที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในตำแหน่งผู้นำ การได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ยในด้านนวัตกรรมและโซลูชันเครือข่ายที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง การสนับสนุนบริการทั่วโลก และการตอบสนองตลาดอย่างรวดเร็วของหัวเว่ย
ในยุคเอไอ หัวเว่ยเดินหน้าผสานความสามารถของเอไอเข้ากับเครือข่ายองค์กรขนาดใหญ่เพื่อยกระดับประสบการณ์ด้านไร้สาย ความปลอดภัย แอปพลิเคชัน และการปฏิบัติการและบำรุงรักษา (O&M) ความก้าวหน้าเหล่านี้ปูทางสำหรับเครือข่ายสายและไร้สาย 10 Gbps ที่มุ่งเน้นประสบการณ์ที่รองรับการใช้งานใหม่ๆ เช่น สมาร์ทแคมปัส การเงินบนมือถือ และการดูแลสุขภาพดิจิทัล
การยกระดับประสบการณ์ไร้สาย
ในปี 2568 หัวเว่ยได้เปิดตัวแอคเซส พอยท์ (AP) ไว-ไฟ 7 แบบ 5 เสารุ่นแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งเสริมสร้างความเป็นผู้นำในด้าน ไว-ไฟ รุ่นใหม่ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น intelligent digital pre-distortion (DPD) และ intelligent Coordinated Scheduling and Spatial Reuse (iCSSR) หัวเว่ยนำนวัตกรรมบางส่วนของ ไว-ไฟ 8 มาใช้ใน ไว-ไฟ 7 เพื่อมอบประสบการณ์ไร้สายที่พร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ หัวเว่ยได้ผนวกรวม ไว-ไฟ , ไอโอที และระบบตรวจจับเพื่อให้บริการเครือข่ายได้อย่างครอบคลุมแคมปัสแบบไร้จุดบอด พร้อมลดต้นทุนการครอบครองรวม (TCO) ลง 50%
การยกระดับประสบการณ์ความปลอดภัย
หัวเว่ยได้ปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอ Wi-Fi Shield เพิ่มเติม ซึ่งมี AP รุ่นต่างๆ รองรับแล้ว 13 รุ่น ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพแวดล้อมการใช้งานทั้งในอาคาร และนอกอาคาร เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไอโอที และพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น นวัตกรรมต่างๆ เช่น การเข้าถึงเทอร์มินัลอย่างปลอดภัย การควบคุมนโยบายแบบละเอียด และการตรวจจับข้อมูลสถานะช่องสัญญาณไว-ไฟ (CSI) ให้ความปลอดภัยทุกมิติทั้งข้อมูล พื้นที่ และความเป็นส่วนตัว ความสามารถเหล่านี้ร่วมกันสร้างสถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบ zero-trust ที่แข็งแกร่งเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในหลากหลายอุตสาหกรรมต่างๆ
การยกระดับประสบการณ์แอปพลิเคชัน
หัวเว่ยรับประกันประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องสำหรับแอปพลิเคชันหลัก รวมถึงเสียง/วิดีโอ คลาวด์เดสก์ท็อป และการทำงานร่วมกันในสำนักงาน ผ่านเทคโนโลยีอัจฉริยะ 3 ตัว คือ iSAC (สำหรับการระบุแอปพลิเคชันอย่างชาญฉลาด) iScheduler (สำหรับการจัดตารางเวลาส่งข้อมูลอย่างชาญฉลาด) และ iFlow (สำหรับการวิเคราะห์ทราฟฟิกเครือข่ายแบบครบวงจรอย่างชาญฉลาด) นอกจากนี้ เทคโนโลยีเฉพาะอย่างของหัวเว่ยอย่าง VIP FastPass และการควบคุมพลังงานต่อแพ็กเก็ตยังช่วยมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่องสำหรับบริการระดับ VIP ที่มีความสำคัญสูง
การยกระดับประสบการณ์ O&M
หัวเว่ยยกระดับความสามารถด้านเครือข่ายอัจฉริยะด้วยสถาปัตยกรรม "One Map, One Brain" ที่ประกอบด้วยแผนที่ดิจิทัลเครือข่ายและเอเจนต์เอไอ เครือข่าย NetMaster การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถดึงข้อมูลเรียกดูการใช้งานแอปพลิเคชันย้อนหลังได้แบบเรียลไทม์และระบุตำแหน่งของปัญหาได้ภายในไม่กี่นาที นอกจากนี้ยังรองรับ O&M เครือข่ายแบบขับเคลื่อนด้วยความต้องการ (intent-driven network) ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการจัดการเครือข่ายที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงความต้องการหรือเจตนาในการใช้งานเครือข่ายออกมาเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ และการแก้ไขข้อบกพร่องไร้สายโดยอัตโนมัติ 80% ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ หัวเว่ยช่วยให้เจ้าหน้าที่เพียงหนึ่งคนสามารถจัดการแคมปัสที่มีผู้ใช้งานกว่า 10,000 คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวเว่ยพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งง โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และพัฒนาการติดตั้งเครือข่ายแคมปัสที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ ยิ่งไปกว่านั้นหัวเว่ยจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อช่วยองค์กรต่างๆ สร้าง "เอไอ แคมปัส" เพื่อเพิ่มประสบการณ์เครือข่ายและประสิทธิภาพการดำเนินงาน และส่งเสริมความสำเร็จร่วมกันในยุคเอไอ