ทั้งนี้ การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำที่ ที ลีสซิ่ง ร่วมกับอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ก่อเกิดประโยชน์หลายด้านทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา เพราะการอนุรักษ์ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ช่วยเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ รักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ ป้องกันการสูญพันธุ์ของสัตว์น้ำท้องถิ่น ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงคุณภาพน้ำและลดการพังทลายของพื้นที่ชายฝั่งหรือป่าชายเลน ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน ปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคมและธรรมชาติ เพิ่มแหล่งอาหารและรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นจากการประมงพื้นบ้านในระยะยาว และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน
นายมงคล เพียรพิทักษ์กิจ กล่าวว่า ในฐานะองค์กรธุรกิจ เรายึดมั่นว่าการเติบโตต้องควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจึงไม่ใช่เพียงกิจกรรมเพื่อสังคม แต่คือการคืนความอุดมสมบูรณ์ให้ธรรมชาติ สร้างความสมดุลของระบบนิเวศ และเป็นแหล่งอาหารให้แก่ชุมชนในอนาคต "เราได้ร่วมกันปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่พนักงาน สังคม และส่งต่อคุณค่าให้กับคนรุ่นต่อไป บริษัทฯ เชื่อว่าการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ช่วยให้ทรัพยากรธรรมชาติฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน และคงความงดงามไว้ให้ลูกหลานในอนาคต"
ด้านนางสาวกมลลฎา ขาวสว่าง เจ้าหน้าที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวว่า การปล่อยสัตว์น้ำเหล่านี้คืนสู่ธรรมชาติ เป็นเสมือนการฟื้นฟูระบบนิเวศของท้องทะเล ให้วัฏจักรการสืบพันธุ์ของสัตว์น้ำสามารถดำรงอยู่ "ทุกคนเป็นนักอนุรักษ์ได้โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัว เช่นไปตลาดเห็นปูที่มีไข่อยู่นอกกระดอง เราควรซื้อมาปล่อยแทนการนำไปรับประทาน เพราะปูหนึ่งตัวมีลูกปูมากกว่า 700,000-800,000 ตัว ซึ่งสามารถขยายพันธุ์ต่อให้คนรุ่นหลังได้ สำหรับอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร พร้อมต้อนรับทุกหน่วยงานที่ต้องการทำกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ เพื่อร่วมกันฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายเลนและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืนค่ะ"
