นอกจากนี้ สนพ. แนะนำสร้างเสริมสุขภาพที่ BKK WELLNESS CLINIC ในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทั้ง 11 แห่ง โดยสามารถรับบริการตรวจสุขภาพฟรี บริการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนตามความเสี่ยง พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพผ่านเว็บไซต์ สนพ. และเพจเฟซบุ๊ก "สำนักการแพทย์ กทม." หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพโทร HOTLINE 1646 สายด่วนสุขภาพ สนพ. ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สนอ. ได้มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ B หรือหากยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B โดยคนไทยทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 ซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งตับสูงกว่าคนทั่วไป เพราะก่อนหน้านั้นยังไม่มีการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B ในเด็กแรกเกิดอย่างทั่วถึงและยังไม่มีวัคซีนในวัยเด็ก รวมถึงกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เช่น คนในครอบครัวเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ B กลุ่มคู่สมรส หรือคู่นอนของผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้ติดเชื้อ HIV หรือไวรัสตับอักเสบ C หญิงตั้งครรภ์ควรตรวจทุกคนในช่วงฝากครรภ์ เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก กลุ่มที่อาชีพเสี่ยงสัมผัสเลือด อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ ผู้ดูแลผู้ป่วย และคนที่เคยได้รับเลือด หรือทำหัตถการ เช่น สัก เจาะ ในที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น โดยทั่วไปแนะนำให้ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B 3 เข็ม เข็มที่ 1 สามารถฉีดได้เมื่อพร้อมตามสะดวก เข็มที่ 2 ฉีดห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มที่ 3 ฉีดห่างจากเข็มแรก 6 เดือน ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้มากกว่าร้อยละ 90 และป้องกันการติดเชื้อได้ตลอดชีวิต ส่วนสิทธิประโยชน์ การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ B เป็นสิทธิประโยชน์สำหรับเด็กแรกเกิดภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ในผู้ใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง