ผศ.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เปิดเผยว่า SACIT ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยบนพื้นฐานของความยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสของโลกจึงได้ส่งเสริมการยกระดับขีดความสามารถผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์ไทยให้เป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ก้าวไปสู่สินค้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล จึงได้ดำเนินการโครงการส่งเสริมมาตรฐานผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ภายใต้ SACIT Craft Collection โดยได้มีการรับรองมาตรฐานหัตถกรรมรักษ์โลก : Conscious Craft ซึ่งมีกรอบข้อกำหนดในการคัดสรร ประกอบด้วย ด้านการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน (Sustainability) ด้านนวัตกรรม (Innovation) ด้านความสามารถทางการตลาด (Marketability) ด้านความเป็นเลิศเชิงช่าง (Craftsmanship) และด้านความดั้งเดิม (Authenticity) ซึ่งจะเห็นได้ว่าความยั่งยืนที่ SACIT ให้การสนับสนุนจะมีความครอบคลุมทั้งในด้านการส่งต่อทักษะเชิงช่างควบคู่การปรับประยุกต์ชิ้นงานให้มีความร่วมสมัยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้
"ทิศทางของ SACIT ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 จะไม่ได้มุ่งเพียงการเชิดชูผลงานอันทรงคุณค่าและกลุ่มครู ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยเท่านั้น แต่ยังมุ่งบทบาทของการเป็น 'นักปั้น' ที่จะผลักดันช่างหัตถศิลป์ไทยรุ่นใหม่ในทุกแขนง ที่สามารถผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับมิติของความยั่งยืนที่มีการปรับประยุกต์ความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งการรับรองมาตรฐาน SACIT Craft Collection ภายใต้มาตรฐาน Conscious Craft จะเป็นอีกหนึ่งบทบาทของ SACIT ในการเป็น Trend Sector ที่สนับสนุนช่างหัตถกรรมไทยให้ปรับตัวเข้ากับเทรนด์ของโลกได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงผลิตชิ้นงาน prototype แต่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดนใจกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ชิ้นงานจำหน่ายได้ และช่างหัตถกรรมมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และนำมาสู่ความยั่งยืนในงานศิลปหัตถกรรม" ผศ.ดร.อนุชา กล่าวทิ้งท้าย
โดยมีตัวอย่างผลงานดังเช่น ผลงานกระเป๋าจากวัสดุรีไซเคิลผสานเทคนิคงานหัตถกรรมของ นางสาววิภาดา โลเปซ จากแบรนด์อาร์มาดา (Armada) ผู้เชี่ยวชาญงานหัตถกรรมประเภทเชือกถัก และ ผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากกาบกล้วย แบรนด์ตานี สยาม (TANEE SIAM)โดย นายธนกร สดใส ผู้ก่อตั้งแบรนด์-ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี และสมาชิก SACIT ซึ่งล่าสุดได้รับตราสัญลักษณ์ SACIT Collection ประเภท 'หัตถกรรมรักษ์โลก' (Conscious Craft) อันเป็นเครื่องหมายการันตีผลงานที่โดดเด่นทั้งในด้านการเลือกใช้วัสดุ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแนวคิดการสร้างสรรค์คุณค่าแก่งานหัตถกรรมอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ไปสู่ผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยที่ตอบโจทย์ทั้งตลาดและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างมีศักยภาพ
นางสาววิภาดา โลเปซ เจ้าของแบรนด์อาร์มาดา สมาชิก SACIT กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นร่วมส่วนหนึ่งของ "SACIT Craft Collection - Conscious Craft" ในการร่วมเป็นพลังเล็ก ๆ ที่จะสามารถขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านกระบวนการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมรักษ์โลก โดยขานรับนโยบายของ SACIT ในการเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับงานหัตถกรรม ซึ่งปัจจุบันแบรนด์อาร์มาดามีแนวทางการสร้างสรรค์ผลงานโดยยึดหลักการสร้างคุณค่าแก่งานหัตถกรรมเป็นสำคัญ อีกทั้งยังมุ่งเน้นสานต่อประโยชน์ให้กับชุมชนและสังคม ผ่านการถ่ายทอดทักษะองค์ความรู้ด้านงานหัตถกรรมประเภทงานเชือก 'มาคราเม่ต์' (Macrame) โดยเปิดเวิร์คชอป"Craft Mindfulness" ซึ่งจัดขึ้นภายในพื้นที่บริเวณบ้านของตนเอง ณ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อสอนงานหัตถกรรมสำหรับกลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยทางสุขภาพจิต ผู้พิการ เด็กกำพร้า รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีใจรักในงานคราฟต์ได้มีโอกาสฝึกสมาธิบำบัดควบคู่กับการสร้างสรรค์งานคราฟต์ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เสริมสร้างรายได้จากงานหัตถกรรมสู่ครัวเรือน ควบคู่กับการส่งเสริมคุณค่าในงานหัตถกรรมที่จะนำมาสู่การต่อยอดเป็นอาชีพที่ยั่งยืนแก่ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้ต่อไปในอนาคต
"สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับตราสัญลักษณ์รับรอง SACIT Conscious Craft คืองานสร้างสรรค์กระเป๋าอัปไซคลิ่งที่ผสมผสานกับหัตถกรรมงานเชือกถักโครเชต์ ซึ่งเป็นชิ้นงานที่มีน้ำหนักเบา ประณีต โดยมีวัสดุหลักเพียง เชือกที่ใช้ถัก และห่วงดึงเปิดกระป๋องอะลูมีเนียมรีไซเคิล ซึ่งมีความแข็งแรงทนทานทำให้มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน ตอบโจทย์กระบวนการจัดการขยะอย่างถูกวิธีและสร้างสรรค์ โดยร่วมกับกลุ่ม "Art Crew" ธนาคารขยะและเจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ดซึ่งเป็นพลังสำคัญ โดยไม่เพียงทำหน้าที่เก็บคัดแยกขยะอลูมีเนียมสำหรับนำมาใช้เป็นวัสดุตั้งต้นในการสร้างสรรค์ชิ้นงานของแบรนด์อาร์มาดาเท่านั้น แต่ยังอาศัยความร่วมแรงร่วมใจในการสร้างสรรค์ผลงานฝีมือจากกลุ่มผู้สูงวัยที่ว่างงาน และผู้พิการจากบ้านเอื้ออาทรในการร่วมถักทอและสร้างสรรค์ผลงานของแบรนด์อาร์มาดา"
นางสาววิภาดา กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาก่อนจะเป็นแบรนด์อาร์มาดา เคยมีฐานลูกค้าชาวต่างชาติ โดยส่งออกงานหัตถกรรมสู่ต่างประเทศทั้งในภูมิภาคยุโรปและเอเชีย อาทิ ฝรั่งเศส อเมริกา และ ญี่ปุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มงานเครื่องประดับ-เครื่องเงิน และลูกปัดที่ได้รับความนิยมสูง ทำให้ปัจจุบันฐานลูกค้าของแบรนด์อาร์มาดาเป็นชาวต่างชาติกว่า 70% ทั้งนี้ จึงต่อยอดสู่งานหัตถกรรมมาคราเม่ต์ในรูปแบบร่วมสมัย พัฒนาสู่สินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ อาทิ กระเป๋า เข็มขัด สร้อยคอ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์งานคราฟต์ประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามแบรนด์อาร์มาดาจะเกิดขึ้นไม่ได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก SACIT กับตราสัญลักษณ์รับรองแบรนด์ให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ "SACIT Craft Collection" ซึ่งจะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเข้าถึงโอกาสค้าปลีกในตลาดประเทศไทยและนานาชาติได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยอนาคตมีเป้าหมายในการต่อยอดแบรนด์อาร์มาดา ขยายสู่งานหัตถกรรมพื้นถิ่นแขนงต่าง ๆ ณ บ้านเกิด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ควบคู่กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมเพื่อสะท้อนคุณค่างานหัตถกรรมดั้งเดิมผสมผสานกับหัตถกรรมร่วมสมัย ตลอดจนมีส่วนในการส่งเสริมการสร้างงานสร้างอาชีพในชุมชนต่อไป
ด้าน นายธนกร สดใส ผู้ก่อตั้งแบรนด์ TANEE SIAM ประธานวิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรีและ สมาชิก SACIT เปิดเผยว่า แบรนด์ "ตานี สยาม"เติบโตขึ้นจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านช่างสกุลบายศรี ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ที่เชื่อมโยงเกษตรกรช่างฝีมือและผู้มีใจรักในงานหัตถกรรมมากกว่า 30 ครัวเรือนที่ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำตลอดจนถึงปลายน้ำ โดยให้ความสำคัญกับการปลูกต้นกล้วยตานี ซึ่งเป็นวัสดุพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติแข็งแรงและทนทาน ทั้งยังมีความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณกับวิถีชีวิตของคนไทย โดยได้นำเอากาบกล้วยตานีมาผ่านนวัตกรรมการแปรรูปจนเป็น "หนังกาบกล้วย" ซึ่งมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ เป็นวัสดุหนังทางเลือกที่ไม่ผ่านกระบวนการฟอกย้อม รักษาความเป็นธรรมชาติ และใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการรังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่ผสมผสานดีไซน์การออกแบบร่วมสมัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน อาทิ กระเป๋าสะพาย กระเป๋าสตางค์ หมวก ตลอดจนกระเป๋าเป้สะพายหลัง และกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ โดยปัจจุบันฐานลูกค้าของแบรนด์ตานี สยาม ส่วนใหญ่เป็นชาววีแกน (Vegan) ทั้งคนไทย-ชาวต่างชาติ ที่คำนึงถึงการละเว้นจากการเบียดเบียนสัตว์และมองเห็นถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ 100%
"รู้สึกภาคภุมิใจที่ได้รับโอกาสจาก SACIT ทั้งด้านการต่อยอดช่องทางการขายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านการออกงานแฟร์ระดับประเทศอย่างงาน "Craft Bangkok 2025" ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี และล่าสุดยังได้รับตราสัญลักษณ์ SACIT Conscious Craft ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายการันตีแบรนด์หัตถกรรมรักษ์โลก ทั้งนี้ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ตราสัญลักษณ์ดังกล่าวจะสามารถเป็นสื่อกลางที่ช่วยสะท้อนตัวตนของผลิตภัณฑ์แบรนด์ตานี สยาม ซึ่งเป็นมากกว่าสินค้าแฟชั่นแต่คือตัวแทนของแนวคิด "Slow Fashion" ที่ผสานทักษะการออกแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Eco-Design ซึ่งเน้นกระบวนการผลิตอย่างใส่ใจในทุกกระบวนขั้น ทำให้ผู้บริโภคสัมผัสได้ถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ที่เป็นมากกว่าเพียงแค่กระเป๋าธรรมดา ตามแนวคิดของของแบรนด์ "ถือไว้…แล้วให้ตานีพูดแทนคุณ"
