กลุ่มบริษัทซีดีจี โดยความร่วมมือของสองบริษัทในเครือ ได้แก่ คอนโทรล ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด (CDT) และ ซีดีจี ซิสเต็มส์ จำกัด (CDGS) ผนึกกำลัง 3 มหาวิทยาลัยพระจอมฯ จัดงาน Hackathon 2025 Trust in Tech: AI Power and KYC for Smart Public Services เปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่สายเทคโนโลยีรวมทีมพัฒนาโซลูชันที่ใช้ AI และ KYC เปลี่ยนโฉมการเข้าถึงบริการภาครัฐของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพไปอีกขั้น โดยจากผู้สมัครกว่า 32 ทีม ก่อนที่ทีม "ACS-Agent" จะคว้ารางวัลชนะเลิศไปครอง จากโซลูชัน ที่ผสาน AI และ KYC กับการตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG หรือ Electrocardiogram) ร่วมกับสแกนใบหน้าและ Liveness Detection เพื่อยืนยันตัวตนอย่างแม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย ลดความเสี่ยงจาก Deepfake และปลอมแปลง พร้อมทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมตอกย้ำว่าเทคโนโลยีของคนรุ่นใหม่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทยในวงกว้างได้อย่างแท้จริง
นายทวีศักดิ์ นิลวัชรมณี ประธานบริษัท คอนโทรล ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "หนึ่งในความท้าทายของสังคมไทยในยุคดิจิทัล คือการออกแบบบริการสาธารณะที่ทั้งปลอดภัย เข้าถึงง่าย และเท่าทันความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถพัฒนาได้ด้วยเทคโนโลยีเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความเข้าใจร่วมกันระหว่างภาครัฐ ธุรกิจ และประชาชน โดยเฉพาะพลังจากคนรุ่นใหม่ เราต้องการเห็นคนรุ่นใหม่ไทยใช้เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เพื่อสร้างนวัตกรรม แต่เพื่อเข้าใจชีวิตผู้คน และออกแบบระบบที่ทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพ"
ผลการแข่งขัน ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ทีม ACS-Agent โดยนำเสนอไอเดียนวัตกรรมในชื่อ Smart Public Agent ซึ่งพัฒนาโซลูชันต้นแบบที่ใช้ AI และ KYC ผสานการตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ร่วมกับการสแกนใบหน้าและ Liveness Detection เพื่อลดขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตนให้ปลอดภัย แม่นยำ และรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงจาก AI Deepfake และการปลอมแปลง พร้อมทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลและบริการภาครัฐได้สะดวกกว่าเดิม คว้าเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาทไปครอง
ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ทีม GroupChatLeaked กับผลงาน "รัฐ รับจบ" ที่มุ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม one-stop-service สำหรับแจ้งปัญหาและติดตามการแก้ไขปัญหาภาครัฐอย่างโปร่งใส โดยใช้ AI วิเคราะห์และจำแนกประเภทปัญหาจากภาพและข้อมูล พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานภาพถ่ายเพื่อยืนยันการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท โดยโครงการมอบรางวัลรวมทั้งสิ้นเป็นมูลค่ามากกว่า 100,000 บาท
สำหรับการตัดสินในครั้งนี้ คณะกรรมการให้ความสำคัญกับทั้งแนวคิดและศักยภาพในการต่อยอด โดยพิจารณาจาก 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การเข้าใจปัญหาได้อย่างลึกซึ้ง ความสอดคล้องกับโจทย์ ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในการออกแบบ ความสามารถในการนำเสนอ และความเป็นไปได้ในการพัฒนาใช้งานจริง เพื่อสะท้อนภาพของโซลูชันที่ไม่ได้ตอบโจทย์แค่ในเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่สามารถเชื่อมโยงกับปัญหาสังคม และมีแนวโน้มพัฒนาให้ใช้งานได้จริง
"หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของโครงการนี้ ไม่ได้อยู่ที่การเฟ้นหาผู้ชนะเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้จากโจทย์จริง ฝึกคิดอย่างเป็นระบบ และเข้าใจว่าสิ่งที่พวกเขาทำสามารถส่งผลต่อชีวิตผู้คนได้จริงในวงกว้าง เพราะในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง การมีทักษะเพียงพออาจไม่พออีกต่อไป แต่ต้องมีจิตสำนึก ความเข้าใจสังคม และความกล้าที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความหมาย เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้แค่เรียนรู้เทคโนโลยี แต่คิดได้ สร้างเป็น และสร้างผลกระทบเพื่อส่วนรวมได้จริง และ CDG พร้อมพาทุกคนมาสร้าง Technology for a Better Society ที่เชื่อในพลังของคนรุ่นใหม่ ไปด้วยกัน" นายทวีศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
