นอกจากนี้ สนอ. ได้จัดสำรวจและตรวจประเมินสถานประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่ง และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตราย ในรูปแบบการบูรณาการทีมตรวจร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สนอ. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยงภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สนอ. ได้กำหนดแผนตรวจสอบสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็งที่ใช้แอมโมเนียในระบบทำความเย็นในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำกับดูแลและควบคุมให้สถานประกอบกิจการที่มีการจัดเก็บ การผลิต การสะสม การขนส่ง และการใช้สารเคมีและวัตถุอันตรายให้บริหารจัดการความเสี่ยงภัยด้านสารเคมีและวัตถุอันตรายถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสี่ยงภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย รวมถึงมีเครือข่ายในการทำงานเวลาเกิดอุบัติภัยสารเคมี
นายนภพล มนต์มนัสสิทธิ ผู้อำนวยการเขตลาดพร้าว กทม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบสาเหตุการรั่วเกิดขึ้นในระบบของเครื่องจักรในการผลิตน้ำแข็ง โดยช่างประจำบริษัทได้ตรวจสอบรอยรั่วภายในระบบและปิดวาล์วเรียบร้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ สนอ. ตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่จากกรมอนามัย และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม พบว่า ไม่มีประชาชนได้รับผลกระทบ ส่วนด้านสิ่งแวดล้อมไม่พบข้อมูลชัดเจนว่าส่งผลกระทบ สำหรับมาตรการความปลอดภัย โรงงานแจ้งว่าได้ดำเนินการตรวจสอบทุกวันและได้รับการตรวจจากหน่วยงานภายนอกในช่วงเดือน ธ.ค. ของทุกปี โดยโรงงานได้ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้สั่งการให้เพิ่มความถี่การตรวจวัสดุอุปกรณ์การผลิตให้ครอบคลุมทุกกระบวนการผลิต และจะเพิ่มความถี่การตรวจของเจ้าพนักงานสาธารณสุข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก