เขตบางรักเข้มกวดขันผู้ฝ่าฝืนพ่นสีกำแพงในที่สาธารณะ ย้ำเจอโทษทั้งจำ-ปรับ

นางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามและดำเนินคดีกลุ่มคนตระเวนพ่นสีตามกำแพง ประตูอาคาร ผนังต่าง ๆ ทั้งในที่ส่วนบุคคลและในที่สาธารณะว่า กรณีดังกล่าว สำนักงานเขตฯ ได้ประสานส่งต่อเรื่องให้กับสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ในพื้นที่ ได้แก่ สน.บางรัก สน.ยานนาวา และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ส่วนใหญ่เจ้าของพื้นที่ หรือผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ เพราะต้องมีเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความก่อน ส่วนกรณีมีกลุ่มบุคคลพ่นสีทับงานศิลปะบนกำแพงในซอยเจริญกรุง 30 ซึ่งเป็นภาพกราฟิตี้ของศิลปินชาวสเปน ในโครงการ "Krung Thep Creative Streets" โดยภาพดังกล่าว กทม. เป็นผู้รับผิดชอบดูแล สำนักงานเขตฯ จึงได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 68 ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้มีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมคนร้ายได้แล้วและอยู่ระหว่างสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Wednesday 1 October 2025 17:45
เขตบางรักเข้มกวดขันผู้ฝ่าฝืนพ่นสีกำแพงในที่สาธารณะ ย้ำเจอโทษทั้งจำ-ปรับ

สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก สำนักงานเขตฯ ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศกิจกวดขันตรวจตราพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเวลายามวิกาล รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่ตามจุดต่าง ๆ พร้อมประสานสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เข้าซ่อมแซมแก้ไขจุดที่กล้อง CCTV ชำรุดและวางแผนติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติม ส่วนตู้สัญญาณสื่อสาร ป้ายรถประจำทาง ป้ายสัญญาณจราจร และป้ายต่าง ๆ ที่ถูกขีดเขียน หรือพ่นสีทับสกปรก สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าทำความสะอาดในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สจส. เข้าดำเนินการทำความสะอาด หรือแก้ไขปรับปรุงต่อไป รวมทั้งประชาสัมพันธ์เจ้าของอาคารผู้เสียหายให้เข้าแจ้งความที่ สน. ในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำผิดในข้อหา ได้แก่ บุกรุก (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362) ทำให้เสียทรัพย์ (มาตรา 358) และในกรณีที่ทำในที่สาธารณะ อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 มาตรา 12 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ทั้งนี้ กรณีมีผู้ร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน Traffy Fondue และพบว่า บางเรื่องยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไข สำนักงานเขตฯ ได้ส่งต่อเรื่องร้องเรียนไปที่ สน.ในพื้นที่แล้วหลังจากที่มีผู้ร้องแจ้งเข้ามา ซึ่งอำนาจหน้าที่การสืบสวนสอบสวนและจับกุมผู้กระทำมาดำเนินคดีเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสำนักงานเขตฯ ได้ประสาน สน.ในพื้นที่ให้เร่งรัดติดตามและดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป