นางรสลิน โกแวร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย เผยภาพรวมการดำเนินงานด้านกิจการเด็กและเยาวชนว่า "โลกยุคปัจจุบันนี้ แต่ละวันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในหลายมิติ ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การรวมกลุ่มกันของเยาวชน ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างสร้างสรรค์ แต่ในขณะเดียวกัน ยังมีเยาวชนจำนวนไม่น้อย ที่ขาดโอกาสในการแสดงออก เสนอแนวคิด หรือพัฒนานวัตกรรม ที่ตอบโจทย์บริบทของตนเองและสังคมโดยรวม สำหรับประเทศไทย ได้มีรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568 โดยสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์คิด for คิดส์ ระบุว่า เยาวชนไทยกำลังเผชิญกับข้อท้าทายสำคัญ อันส่งผลต่อการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำด้านเทคโนโลยี การขาดแคลนแหล่งเรียนรู้นอกระบบ และระบบสนับสนุนที่ไม่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์
สำหรับงานนี้ เราต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง การจัดงานวันนี้จึงเป็นเวทีระดับประเทศ ซึ่งเรามีการทำงานกับกลุ่มเด็กเยาวชนในทั่วทุกพื้นที่กว่า 30 จังหวัด โดยเราสร้างศักยภาพให้กับเด็ก และสิ่งหนึ่งที่จะช่วยสร้างศักยภาพให้กับเด็กก็คือ เราต้องสร้างภาวะความเป็นผู้นำ และในขณะเดียวกัน เราต้องการรับฟังเสียงเด็ก เพราะว่าเป้าหมายหลักของการทำงานของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ก็คือมุ่งพัฒนาเยาวชน ดังนั้น ในงานวันนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่เด็กจะมาเรียนรู้ในการพัฒนาความเป็นผู้นำ ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังได้บอกกับเราว่าเขาคิดเห็นเป็นแบบไหน ต้องการอะไร หรือเขาต้องได้รับการพัฒนาด้านใดบ้าง เพื่อให้เขาเติบโตไปได้ถูกทางมากขึ้น ซึ่งเสียงสะท้อนของเยาวชนที่มาในวันนี้ เราจะรวบรวมแล้วนำมาใช้พัฒนาวางแผนดำเนินงาน กลยุทธ์ในการทำงาน 5 ปีข้างหน้าค่ะ
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ตระหนักถึงความสำคัญในการเสริมพลังและสนับสนุนให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพที่จำเป็นต่อการเติบโต ทั้งในด้านทักษะชีวิต ความเป็นผู้นำ และความสามารถด้านนวัตกรรม โดยเฉพาะ AI ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนพลังเยาวชน รวมถึงทักษะอาชีพในอนาคต เราตั้งใจให้เวทีนี้เป็นพื้นที่แสดงผลงานของเยาวชน โดยมีเนื้อหาหลากหลายประเด็น อาทิ ด้านทักษะชีวิต ด้านการศึกษา ด้านการปกป้องคุ้มครองเด็ก ด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้านสุขภาพอนามัย และด้านการพัฒนาชุมชนและเยาวชนจิตอาสา ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของมูลนิธิฯ โดยเฉพาะในมิติที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม การลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ การส่งเสริมสังคมที่สงบสุขและยุติธรรม รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน" นางรสลิน โกแวร์ กล่าว
ด้านตัวแทนเยาวชน ที่เข้าร่วมงาน ได้สะท้อนถึงผลดีของการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนปัญหาว่า "ผมได้มีโอกาสเป็นตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมประชุมในเวทีระดับนานาชาติ ได้มีโอกาสในการแสดงศักยภาพในการนำเสนอเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ ซึ่งผมได้เข้าร่วมในฐานะตัวแทนภาคใต้ และได้นำเสนอประเด็นเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วม เพื่อหารือร่วมกันในแนวทางการแก้ไขปัญหา แล้วก็ได้นำเสนอผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องที่มาจากหลายประเทศ คือ ตัวแทนจาก UN ได้รับทราบและนำเรื่องไปหาแนวทางแก้ไขต่อไป การเข้าร่วมครั้งนี้ อย่างแรกเลยที่ผมได้รับ คือประสบการณ์ เพราะจากเดิมที่ความเห็นเราจะอยู่แค่ในระดับชุมชน แต่การได้รับโอกาสครั้งนี้ มันทำให้ปัญหาในพื้นที่ ถูกสะท้อนออกไปในวงกว้างมากขึ้น ขอขอบคุณมูลนิธิศุภนิมิตฯ ที่ให้การสนับสนุนและมอบโอกาสต่าง ๆ ให้กับผม ผมอยากจะฝากถึงน้อง ๆ เมื่อมีโอกาสครับ อยากให้คว้าเอาไว้ ให้มองว่าโอกาสนี้ เป็นเหตุผลที่น้องจะสามารถพัฒนาตัวเอง และอย่าลืมที่จะส่งต่อโอกาสตรงนี้ให้กับคนอื่นต่อไปครับผม" นายตะวัน เยาวชนศุภนิมิตฯ จังหวัดพังงา
"การที่หนูได้มีโอกาสเข้ามาเป็นตัวแทนแกนนำเยาวชนกับมูลนิธิศุภนิมิตฯ หนูสามารถนำเอาทักษะความรู้ที่ได้ ไปสานต่อและพัฒนาชุมชนค่ะ ด้วยความที่บ้านหนูเป็นพื้นที่บนดอย ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ปัญหาที่พบบ่อย ๆ คือเรื่องฝนตก น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงดินถล่ม หลายบ้านได้รับความเสียหาย ไม่มีที่อยู่ที่ทำกิน หนูจึงได้ยกเอาปัญหานี้ มาหารือในที่ประชุม เพื่อนำเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ข้อเท็จจริง เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลืออย่างทั่วถึงมากขึ้นในพื้นที่ชุมชน หนูอาจจะเป็นเพียงเสียงเล็ก ๆ แต่มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ให้โอกาสและทำให้หนูกล้าที่จะออกมาเป็นกระบอกเสียงให้คนในพื้นที่ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อไป" นางสาวศิริมา เยาวชนศุภนิมิตฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
