ซีบีอาร์อีเผยตลาด Branded Residence ในไทย ก้าวสู่ผู้นำในเอเชียแปซิฟิก

มากกว่าความหรูหรา แต่คือมาตรฐานระดับโลกที่สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพ

Thursday 16 October 2025 11:28
ซีบีอาร์อีเผยตลาด Branded Residence ในไทย ก้าวสู่ผู้นำในเอเชียแปซิฟิก

ซีบีอาร์อี ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก เผยภาพรวมตลาด Branded Residence ในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีภูเก็ตและกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลักที่น่าจับตามอง อีกทั้งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างที่สำคัญของตลาด Branded Residence ในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่ดีไซน์ที่หรูหราและการบริการระดับโลกเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงมาตรฐานคุณภาพในทุกมิติของการอยู่อาศัยที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค

นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า "ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ตลาด Branded Residence ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตเศรษฐกิจในทุกช่วงเวลาได้อย่างสวยงาม"

"ลูกค้าส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ และชื่นชอบงานบริการที่มาพร้อมกับแบรนด์นั้น ๆ แม้หลายคนอาจมองว่า Branded Residence โดดเด่นแค่เรื่องดีไซน์และการบริการ แต่ความจริงแล้ว ผู้ประกอบการโรงแรม (Hotel Operator) ได้เข้ามาร่วมกำหนดมาตรฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในหลากหลายมิติเพื่อมุ่งเน้นให้ผู้อยู่อาศัยได้รับความสะดวกสบายสูงสุด อาทิ ขนาดห้องพัก วัสดุอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในโครงการ พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนถึงมาตรฐานงานระบบความปลอดภัย สุขอนามัย หรือแม้กระทั่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มาตรฐานเหล่านี้ถูกยกระดับตามข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานสากลซึ่งถูกกำหนดมาจากแบรนด์โรงแรมต่างๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในรายละเอียดของแต่ละแบรนด์ แม้สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มต้นทุนในการพัฒนา แต่ก็แลกมาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก มาตรฐานเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบที่สามารถ 'plug in' ได้ภายหลังจากที่โครงการสร้างแล้วเสร็จ แต่เป็นฐานรากของงานดีไซน์ที่ล้วนถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่พักอาศัยได้อย่างยั่งยืน ทำให้ Branded Residence ได้รับความนิยมอย่างสูง ไม่ว่าเพื่อการอยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน"

"นอกจากนี้ Branded Residence ยังดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศทั่วโลกที่เชื่อมั่นในแบรนด์ และมั่นใจว่าจะได้รับมาตรฐานเดียวกันทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในเครือโรงแรมทั่วโลกอีกด้วย" นางสาวอาทิตยา กล่าวเสริม

ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) กำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสำคัญของ Branded Residence อย่างน่าจับตา โดยมีสัดส่วนการครองตลาดของโครงการที่สร้างแล้วเสร็จในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 24% ตามหลังอเมริกาเหนือ ซึ่งมีส่วนแบ่ง 34% ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาโครงการที่สร้างแล้วเสร็จและโครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง (Pipeline) คาดการณ์ว่าทั้งสองภูมิภาคจะมีส่วนแบ่งตลาดที่เท่ากันที่ 23% ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเอเชียแปซิฟิก

สำหรับประเทศไทยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด Branded Residence ของเอเชียแปซิฟิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครองตำแหน่งประเทศที่มีโครงการที่สร้างแล้วเสร็จมากที่สุดในภูมิภาค ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงการ Branded Residence ที่สร้างแล้วเสร็จกว่า 40 โครงการ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในเอเชียแปซิฟิก และเป็นลำดับถัดจากเวียดนามในแง่ของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมโครงการที่สร้างแล้วเสร็จและโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการทั้งหมดแล้ว ประเทศไทยจะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีจำนวน Branded Residence มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิกและเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเม็กซิโก นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในระดับเมือง ภูเก็ตและกรุงเทพฯ นั้นติดอันดับเมืองน่าจับตา โดยภูเก็ตได้ก้าวขึ้นเป็นเมืองที่มี Branded Residence มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก และกรุงเทพฯ อยู่ที่อันดับที่ 7 ของโลก

จากข้อมูลของซีบีอาร์อีในครึ่งแรกของปี 2568 พบว่า ภูเก็ตมี Branded Residence คิดเป็น 10% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมทั้งหมด ขณะที่กรุงเทพฯ มี Branded Residence เพียง 1% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าที่พักอาศัยประเภทนี้มีจำนวนจำกัด ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวทั้งด้านมาตรฐานระดับโลกและการบริหารจัดการภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำ อีกทั้งทำเลที่ตั้งก็ล้วนอยู่บนไพร์มโลเคชั่น Branded Residence จึงถือเป็น 'แรร์ไอเท็ม' ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองหาทรัพย์สินที่มีเอกลักษณ์และความมั่นคง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยดึงดูดการลงทุนใน Branded Residence และมีการเติบโตมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วย การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในฐานะจุดหมายปลายทางระดับโลก (Global Destination), ความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure), มาตรฐานของระบบบริการสุขภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ระบบการศึกษาที่ได้มาตรฐาน ชื่อเสียงด้านการบริการและคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงความคุ้มค่าและผลตอบแทนจากการลงทุน เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์มีศักยภาพในการทำกำไรและสร้างผลตอบแทนที่ดี ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ภูเก็ตและกรุงเทพฯเป็นเมืองที่ได้รับประโยชน์สูงสุด และมีจำนวน Branded Residence มากที่สุดในโลก อีกทั้งความต้องการที่พักอาศัยหรูหราและไลฟ์สไตล์ที่เหนือระดับ ที่ต้องการความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตระดับสูง กำลังเป็นเทรนด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่า การลงทุนในคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ อาคารสำนักงานเกรดเอ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ยิ่งไปกว่านั้น หากโครงการเหล่านั้นได้รับการบริหารจัดการโดยแบรนด์ระดับโลก ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและความมั่นใจให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้เช่า ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว การลงทุนในที่พักอาศัยประเภท Branded Residence โดยเฉพาะที่ได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อย่างถาวร (Freehold) จึงมอบผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จากข้อมูลการซื้อขายของซีบีอาร์อี พบว่า ที่พักอาศัยประเภท Branded Residence ในทำเลเดียวกัน สามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Gross Yield) ได้สูงกว่าโครงการที่ไม่ใช่ Branded Residence ถึง 50%-80% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอย่างแท้จริง

"Branded Residence จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ปรารถนาการใช้ชีวิตเหนือระดับตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาว ซึ่งได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และยังสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้อย่างภาคภูมิ" นางสาวอาทิตยา กล่าวสรุป