ในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันชาติและเทศกาลไหว้พระจันทร์เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมืองจินเฉิงได้ยกระดับหมู่บ้านและปราสาทโบราณที่มีอยู่ทั่วเมือง ให้เป็นเสาหลักในการกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์หลากหลายมิติ โดยสำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองจินเฉิงระบุว่า กิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย "การท่องเที่ยวสีแดง" (Red Tourism) หรือการตามรอยประวัติศาสตร์พรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างลึกซึ้ง กิจกรรมสนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัย การอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของเมืองจินเฉิงในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผ่านการผสมผสานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน โดยวัฒนธรรมช่วยกำหนดประสบการณ์การท่องเที่ยว ขณะที่การท่องเที่ยวก็ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมให้มีชีวิตชีวา
สำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองจินเฉิงระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองจินเฉิงได้ต่อยอดมรดกทางประวัติศาสตร์อันล้ำค่าและทรัพยากรของหมู่บ้านโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ จนสามารถพัฒนาหมู่บ้านชนบทให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันงดงาม ปัจจุบัน หมู่บ้าน 18 แห่งทั่วเมืองจินเฉิงได้รับการยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ A นับเป็นจุดหมายปลายทางอันโดดเด่นที่ผสมผสานเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ความมีชีวิตชีวาของท้องถิ่น และแนวคิดการดูแลสุขภาพเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
ยกตัวอย่างเช่น "หมู่บ้านหวงเฉิงทั้งห้า" ในอำเภอเป่ยหลิว ที่บูรณาการทรัพยากรหลักอย่างวังขุนนางและเมืองโบราณกั่วอวี่ จนเกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ครอบคลุมถึงแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A และ 4A โรงแรมระดับไฮเอนด์ โรงแรมบูติก และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพองค์รวมไท่เยว่ ซึ่งสร้างงานให้กับชาวบ้านในท้องถิ่นกว่า 3,000 คน นับเป็นตัวอย่างของการพัฒนาเชิงบูรณาการที่เชื่อมโยงการอนุรักษ์วัฒนธรรม การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม และการเพิ่มพูนรายได้ของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม อีกหนึ่งตัวอย่างคือ หมู่บ้านอวี่ฉือ ในอำเภอฉินสุ่ย ซึ่งนำชื่อเสียงด้านวรรณกรรมของนักเขียนคนดัง จ้าว ซูหลี่ (Zhao Shuli) มาผสานกับทรัพยากรทางธรรมชาติ เพื่อพัฒนาหมู่บ้านให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เชื่อมโยงประสบการณ์ทางวัฒนธรรมเข้ากับแนวคิดการดูแลสุขภาพได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกัน หมู่บ้านเหลียงหู่ ในอำเภอเกาผิง ซึ่งมีสถาปัตยกรรมโบราณสมัยราชวงศ์หมิงและชิงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และยังอุดมไปด้วยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ก็ได้ส่งเสริมการบูรณาการแนวคิด "หมู่บ้านโบราณ + สุขภาพ + การเรียนรู้เชิงประสบการณ์" อย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ หมู่บ้านซู่จวง ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งงานแต่งงาน" ได้มีการฟื้นฟูพื้นที่ลานบ้านแบบโบราณขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เน้นประเพณีแต่งงาน จนกลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของโครงการ "ร้อยหมู่บ้าน ร้อยลานบ้าน"
ความพยายามในการฟื้นฟูหมู่บ้านเหล่านี้ ไม่เพียงแต่นำชีวิตใหม่มาสู่มรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เท่านั้น หากยังวางรากฐานการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสุขภาพรูปแบบใหม่ ด้วยแนวทางการพัฒนาที่แตกต่างและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละหมู่บ้าน ผสานเข้ากับการเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง การพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ และแนวคิดการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม นำเสนอ "โมเดลจินเฉิง" อันเป็นต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจในการฟื้นฟูหมู่บ้านดั้งเดิมอย่างยั่งยืน
ที่มา: สำนักวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองจินเฉิง