ยกระดับ "อาหารไทยบ้านๆ" สู่ Casual Fine Dining
เชฟจิ๊บถ่ายทอดรสชาติอาหารไทยแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะ อาหารใต้ ผ่านแนวคิด "เหมือนกินข้าวที่บ้าน" ในรูปแบบ sharing menu ที่อบอุ่นแต่แฝงด้วยความประณีตทางเทคนิค เธอนำศาสตร์การทำอาหารตะวันตกมาผสานกับกลิ่นอายไทยแท้ เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง "ความเข้มข้น จัดจ้าน และความละเมียดละไม" ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของศิลาดล
เมนูเด่น ได้แก่ แกงระแวงแก้มวัว กลิ่นหอมเครื่องเทศโบราณ ข้าวพับใบเตยโบราณ ที่ต้องใช้ความประณีตสูงในการห่อและนึ่ง ยำส้มโอขาวใหญ่อัมพวากุ้งแม่น้ำย่าง สดชื่นและครบรส รวมถึงแกงเผ็ดเป็ดย่างกงฟีลิ้นจี่และพุทธาแห้ง ที่นำเทคนิคฝรั่งเศสมายกระดับรสชาติไทย
เสน่ห์ของศิลาดล: สง่างามเหนือกาลเวลา
มิสเตอร์ริชาร์ด ดอยท์ล ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ กล่าวว่า "ห้องอาหารศิลาดล คือ สัญลักษณ์ของความงดงามเหนือกาลเวลา การเปิดตัวเมนูใหม่ร่วมกับเชฟจิ๊บในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดรากเหง้าอาหารไทยให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น เราเชื่อว่ารสชาติแบบไทยแท้สามารถอยู่ร่วมกับประสบการณ์ Casual Fine Dining ได้อย่างลงตัว ในบรรยากาศศาลาไทยที่ผ่อนคลายและเป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัย"
พันธมิตรยาวนานเพื่อมอบสิทธิพิเศษเหนือระดับ
นางสาววริษฐา พัฒนรัชต์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต "เคทีซี" กล่าวว่า "เคทีซีและโรงแรมสุโขทัยมีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่องในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อมอบประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมให้กับสมาชิก ศิลาดลคืออีกหนึ่งจุดหมายที่สะท้อนแนวคิด 'Luxury in Simplicity' ซึ่งตรงกับรสนิยมของสมาชิกเคทีซีที่มองหาคุณภาพและความคลาสสิกที่เหนือระดับ"
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความร่วมมือครั้งนี้ เคทีซีมอบ ส่วนลด 30% สำหรับค่าอาหารทั้งเมนู A La Carte และ Tasting Menu ที่ห้องอาหาร Celadon โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 - วันที่ 31 ธันวาคม 2568 เปิดให้บริการเฉพาะมื้อค่ำเวลา 17.00 น. - 23.00 น. ทุกวัน พร้อมการแสดงศิลปะรำไทยเวลา 19:30 น. และ 20:30 น.
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE 02 123 5000 หรือติดตามโปรโมชันของเคทีซีได้ที่ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก "เคทีซี ทัช" ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ : บัตรเครดิตใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
