แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปีนี้ช่วงเทศกาลกินเจ กำหนดในช่วงวันที่ 20 - 29 ตุลาคม 2568 เป็นช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีนและประชาชนสนใจบริโภคอาหารเจ เป็นจำนวนมากจึงต้องสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนที่จะบริโภคอาหารในช่วงเทศกาลกินเจ โดยกรมอนามัย ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขอนามัยแก่ผู้ปรุงประกอบอาหารและผู้สัมผัสอาหาร และสร้างความตระหนักด้านสุขอนามัยแก่ผู้ประกอบกิจการด้านอาหารในทุกขั้นตอน ตลอดจนต้องแนะนำวิธีเลือกซื้อและล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาด ปลอดภัย ให้คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการด้วย เนื่องจากการปรุงอาหารเจจำหน่าย มักปรุงประกอบในปริมาณมาก ซึ่งพบความเสี่ยง เช่น อาหารที่ปรุงไม่สะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ อาหารที่มีแป้ง ไขมันมาก อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ก่อน "กินเจ" ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ปรับระบบของร่างกายก่อนกินเจ 2 - 3 วัน โดยการเพิ่มผักในมื้ออาหารให้มากขึ้น ลดเนื้อสัตว์ให้ร่างกายได้ปรับตัว "ทั้งนี้ การเลือกซื้ออาหารเจ ควรคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ สำหรับการปรุงประกอบอาหารเจที่ดีควรเน้นประเภทนึ่ง ยำ ต้ม ตุ๋น อบ หลีกเลี่ยงการผัด ทอดที่ใช้น้ำมันท่วม ลดวัตถุดิบอาหารเจที่เป็นอาหารแปรรูปที่มีส่วนผสมของเครื่องปรุงรสจัด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรค NCDs เช่นกัน อีกทั้ง เน้นความสะอาด ความปลอดภัย พิจารณาราคาที่เหมาะสม และขอความร่วมมือร้านค้าลดการใช้โฟมบรรจุอาหารเปลี่ยนเป็นใช้ภาชนะจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้แทน พร้อมเน้นย้ำผู้บริโภค คุมเข้มพฤติกรรมกินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง และหมั่นล้างมือ เพื่อเป็นเกราะป้องกันโรค" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ด้าน นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอนามัยแนะนำหลัก 5 ล. เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่ 1) ล : เลือกวัตถุดิบ ที่ใช้ในการปรุงประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และเลือกกินอาหารจากร้านอาหารที่สะอาด ผ่านมาตรฐานสุขาภิบาลอาหาร แซน (SAN) และ แซนพลัส (SAN Plus) 2) ล : ล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาด ก่อนกินหรือก่อนนำผักและผลไม้มาปรุงอาหาร ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้งด้วย 3 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 ล้างด้วยน้ำไหล ลดสารพิษได้ ร้อยละ 25-65 วิธีที่ 2 ล้างด้วยผงฟู หรือเบคกิ้งโซดา ลดสารพิษได้ ร้อยละ 90-95 และ วิธีที่ 3 ล้างด้วยน้ำส้มสายชู ลดสารพิษได้ ร้อยละ 60-84 และยังสามารถล้างไข่พยาธิได้ 3) ล : ล้างมือ ให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ มือของ ผู้ปรุง-ผู้เสิร์ฟ และผู้บริโภค ควรหมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ ด้วยวิธีการ 7 ขั้นตอน เพื่อป้องกันและหยุดการแพร่โรค และใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหาร เน้นการปรุงให้สุก ปกปิดอาหารให้สะอาด ป้องกันฝุ่นละอองหรือแมลงที่อาจไต่ตอม 4) ล : เลี่ยง อาหารที่มีแป้งและไขมันมาก อาหารเจส่วนใหญ่ ประกอบด้วย แป้ง ธัญพืช ถั่ว งา เต้าหู้ อาจทำให้ขาดโปรตีนและธาตุเหล็กได้ จึงควรเลือกพืชที่ทดแทนโปรตีน ได้แก่ ถั่วเมล็ดแห้ง โปรตีนเกษตร เต้าหู้ และผักใบเขียวเข้ม ซึ่งมีธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ ควรเลือกผักผลไม้ให้หลายสี เพื่อให้ได้วิตามินและแร่ธาตุครบตามที่ร่างกายต้องการ และ 5) ล : ลด หวาน มัน เค็ม เสริมโปรตีน จากถั่ว การกินอาหารเจที่ดียังคงต้องเน้นกินอาหารครบ 5 หมู่ นอกจากการกินผักให้หลากหลายแล้ว สามารถกินโปรตีนเกษตรทดแทนได้ ที่สำคัญ คือ ต้องไม่เค็ม ไม่หวาน ไม่มัน มากเกินไป
