บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับสุขภาพคนไทยอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งมอบชุดตรวจโปรตีนในปัสสาวะ (Microalbuminuria strip test) ให้แก่ กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และเขตสุขภาพต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยจัดพิธีส่งมอบ ณ โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโครงการ "คนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 72 พรรษา โดยมีเป้าหมายให้คนไทย 7.2 ล้านคน ได้รับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคไตตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคไต และชะลอการเกิดภาวะไตวายระยะสุดท้าย สอดคล้องกับแนวทางของแผนทศวรรษการป้องกันและชะลอไตเสื่อม พ.ศ. 2565-2574 ของกระทรวงสาธารณสุข ที่เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันเพื่อลดภาระของโรคไตเรื้อรังในระยะยาว
โรคไตเรื้อรัง: ภัยเงียบระดับชาติที่ต้องเร่งป้องกัน
โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease: CKD) จัดเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของประเทศเนื่องจากเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีอุบัติการณ์สูง และเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด สาเหตุหลักของโรคไตมักเกิดจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดแล้ว โรคเหล่านี้จะนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการบำบัดทดแทนไตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตและสร้างภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลต่อระบบสุขภาพของประเทศ
- ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2567) ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังกว่า 1.12 ล้านคน และในจำนวนนี้เกือบ 100,000 ราย ต้องเข้ารับการฟอกเลือดหรือล้างไตทางช่องท้องเป็นประจำ1
- ในเชิงค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยแต่ละรายต้องใช้เงินเฉลี่ยประมาณ 234,000 บาทต่อปี สำหรับการฟอกเลือดสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (คำนวณจากอัตราค่าบริการ 1,500-1,700 บาทต่อครั้ง)2
- ข้อมูลปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ยังชี้ให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายในการบำบัดทดแทนไตภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสูงถึง 17,589 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่างบประมาณที่ตั้งไว้กว่า 4,000 ล้านบาท3
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการขับเคลื่อนมาตรการด้านสุขภาพเชิงป้องกัน การตรวจคัดกรองโรคไตตั้งแต่ระยะเริ่มต้นด้วยชุดตรวจโปรตีนในปัสสาวะ (Microalbuminuria strip test) เป็นการตรวจหาโปรตีนอัลบูมินที่รั่วในปัสสาวะ ที่มีระดับต่ำเกินกว่าจะตรวจพบด้วยการตรวจโปรตีนในปัสสาวะแบบทั่วไป ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญว่าไตมีปัญหา จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างทันท่วงที ลดความเสี่ยงของการเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และช่วยลดภาระต่อระบบสาธารณสุขโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พันธกิจร่วม "คัดกรองไว ชะลอไตเสื่อม" เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนของคนไทย
โครงการ "คนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต" มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงการตรวจคัดกรองในกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นิ่วในไต เกาต์ และผู้ที่มีประวัติใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เป็นประจำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของไตได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ช่วยชะลอความเสื่อมของไต และลดโอกาสการเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้ายได้ นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้างถึงความสำคัญของโรคไตเรื้อรัง ปัจจัยเสี่ยง และแนวทางการป้องกันที่ถูกต้อง เพื่อให้คนไทยทุกคนตระหนักและดูแลสุขภาพไตของตนเองได้อย่างยั่งยืน
การสนับสนุนจากเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ในครั้งนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมศักยภาพของระบบสาธารณสุขระดับพื้นที่ โดยเริ่มจากเขตสุขภาพที่ 6 จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะเป็นพื้นที่ต้นแบบในการขยายผลไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศในระยะต่อไป
ดร.นพ. โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า "โครงการคนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต ภายใต้โครงการป้องกันโรคไต อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ประชาชนได้รู้จักและดูแลสุขภาพไตของตนเองอย่างทันท่วงที การเปลี่ยนแนวทางจากการรักษาเมื่อเกิดโรคมาสู่การป้องกันและคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยชะลอการเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนถือเป็นพลังเสริมสำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจระดับชาติ ช่วยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกคนสามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองที่มีคุณภาพ ช่วยลดภาระของระบบสุขภาพ และสร้างความมั่นคงทางสุขภาพให้กับประเทศในระยะยาว"
นายริคาร์เต้ เซลวานเดส ริเวร่า ผู้จัดการทั่วไป และหัวหน้าฝ่ายเภสัชภัณฑ์สำหรับมนุษย์ บริษัท เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ (ไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า "เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ตระหนักถึงความรุนแรงและความเร่งด่วนของปัญหาโรคไตในประเทศไทย การสนับสนุนในครั้งนี้สะท้อนถึงพันธกิจของเราที่มุ่งส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันอย่างแท้จริง การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดความสูญเสียต่อชีวิต เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการนี้ร่วมกับภาครัฐให้บรรลุเป้าหมาย 7.2 ล้านคน เพื่อสร้างสังคมไทยที่มีสุขภาพดี"