สำหรับจุดเกิดเหตุอยู่ชั้นที่ 1 บริเวณพื้นที่หลังบ้าน ซึ่งใช้เป็นพื้นที่ล้างภาชนะ ขณะตรวจสอบพบภายในบ้านมีกลิ่นสารเคมีรุนแรง ถังบรรจุสารเคมี ชนิด SODIUM HYDROSULFITE หมายเลข UN NO : 1384 นำเข้าจากประเทศจีน มีลักษณะเป็นผงเกล็ดละเอียดสีขาว คุณสมบัติทางเคมีที่สำคัญ สามารถลุกติดไฟได้เอง ทำปฏิกริยากับน้ำและอากาศได้ดี หากสารเกิดการลุกไหม้จะเกิดก๊าซที่มีฤทธิ์ระคายเคือง กัดกร่อนและ/หรือเป็นพิษ ซึ่งนิยมใช้ในอุตสาหกรรมฟอกขาว ฟอกย้อม ขนาดบรรจุถังละ 50 กิโลกรัม (กก.) 3 ถัง โดยถังที่ 1 ยังไม่เปิดใช้งานน้ำหนักสารเคมี 50 กก. พบถังสารเคมีรั่วไหลบริเวณก้นถัง ส่วนถังที่ 2 และถังที่ 3 เปิดใช้งานแล้วน้ำหนักประมาณถังละ 20 กก. จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบการรั่วไหลของถังสารเคมี น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 90 กก. เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการปิดผนึกสารเคมีด้วยถุงพลาสติก เพื่อป้องกันไม่ให้สารเคมีสัมผัสกับอากาศและเฝ้าระวังอุณหภูมิของสารเคมีที่รั่วไหลให้คงที่ (อุณหภูมิไม่ควรเกิน 50 องศาฯ) ก่อนดำเนินการวางแผนเคลื่อนย้ายสารเคมีออกจากอาคาร พร้อมทั้งประสานผู้ประกอบกิจการขอนำสารเคมีไปกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งผู้ประกอบกิจการยินยอมและได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยได้นำส่งสารเคมีไปกำจัด ณ โรงกำจัดขยะพิษเขตหนองแขม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เจือจางสารเคมีที่ตกค้างภายในร้านและดำเนินการระบายอากาศภายในร้านเป็นระยะเวลา 15 นาที จนภายในร้านไม่มีกลิ่นของสารเคมีดังกล่าว จึงอนุญาตให้พนักงานภายในร้านและประชาชนเข้าอาศัยภายในบ้านได้ตามปกติ
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ได้ให้คำแนะนำกับพนักงานภายในร้านและประชาชนที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียงในการป้องกันตนเองจากการได้รับสัมผัสสารเคมี พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลและอาการเบื้องต้น หากพนักงานมีอาการระคายเคือง แสบคอ จมูก หรือผิวหนังเป็นแผลให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที รวมถึงได้ประสานกรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรมวางแผนหาแนวทางการควบคุมการใช้ การครอบครอง และการกำจัดสารเคมี เพื่อความปลอดภัยสำหรับประชาชนในพื้นที่