กรมอนามัย ฝ่ากระแสดราม่า รณรงค์ "ทุกเพศทุกวัย…ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน"

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าสร้างความมั่นใจพร้อมส่งเสริมให้คนไทย "ทุกเพศทุกวัย…ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน" ร่วมกับกินอาหารครบ 5 หมู่ ที่มีความหลากหลาย กินครบ 3 มื้อ ในปริมาณสัดส่วนที่เหมาะสมแต่ละช่วงวัยตามธงโภชนาการ แนะวัยเรียน วัยรุ่นควรออกกำลังกายสะสม วันละ 60 นาที วัยทำงานออกกำลังกาย อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ รับแสงแดดช่วงเช้าหรือเย็นทุกวันเพื่อรับวิตามินดีช่วยส่งเสริมการดูดซึมแคลเซียม นอนหลับให้เพียงพอ นมวัวยังคงเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพ และมีสารอาหารต่างๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินบี 2 โดยข้อมูลโภชนาการ พบว่า นมวัว 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) ให้พลังงานเฉลี่ย 125 กิโลแคลอรี โปรตีน 6.6 กรัม แคลเซียม 200 มิลลิกรัม และฟอสฟอรัส 182 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่ต้องการลดการกินไขมันอาจเลือกนมพร่องมันเนย หรือนมขาดมันเนย

Wednesday 12 November 2025 13:35
กรมอนามัย ฝ่ากระแสดราม่า รณรงค์ "ทุกเพศทุกวัย…ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน"

นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่มีการถกเถียงบนโลกออนไลน์ กรมอนามัยขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นมวัวที่มีการวางจำหน่าย ต้องผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อด้วยความร้อนโดยวิธีพาสเจอร์ไรส์ หรือ สเตอริไลส์ หรือ ยูเอชที จึงมีความปลอดภัย วิธีการสังเกตว่าผลิตภัณฑ์นมดังกล่าวผลิตจากน้ำนมโคสด หรือ ผลิตจากนมผง หรือมีนมผงเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ สามารถดูได้จากส่วนประกอบที่ระบุไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์ ซึ่งหากเป็นนมรสจืดส่วนใหญ่จะผลิตจากน้ำนมโคสด 100% และหากมีการใช้นมผงเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์จะต้องมีการระบุไว้บนฉลาก เช่น นมผงชนิดขาดมันเนย หรือนมผงพร่องมันเนย เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดของฉลากบนบรรจุภัณฑ์นอกจากจะระบุส่วนประกอบทั้งหมดที่ต้องแสดงแล้ว ยังมีข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ การแสดงฉลากโภชนาการคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งช่วยให้ทราบถึงข้อมูลพลังงานและสารอาหารที่ได้รับจากการดื่มนม น้ำนมโคสดหรือน้ำนมโคพาสเจอร์ไรส์ วันที่ผลิต (MFG) วันหมดอายุ (EXP) เครื่องหมาย อย. และวิธีการเก็บรักษา เช่น นมพาสเจอร์ไรส์ ต้องแช่เย็นตลอดเวลา ที่อุณหภูมิไม่เกิน 8 องศาเซลเซียส และมีอายุสั้น ส่วน นมสเตอริไลส์ และ นมยูเอชที สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้ และมีอายุการเก็บนานกว่า แต่หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์แล้ว ต้องเก็บในตู้เย็นและบริโภคให้หมดโดยเร็ว

"สำหรับนมผงเป็นการนำน้ำนมโคดิบที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อที่ระเหยน้ำออกด้วยกรรมวิธีต่างๆ จนเป็นผง และอาจมีการเติมวัตถุอื่นใดที่เป็นองค์ประกอบของนมได้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 350 พ.ศ. 2556 และได้มีการกำหนดการใช้วัตถุเจือปนอาหารในนมผงให้ใช้ได้ตามชนิดและปริมาณสูงสุด ที่อนุญาตให้มีการเติมลงในนมผง เช่น สารทำให้คงตัว สาร Emulsifier สารป้องกันการจับเป็นก้อน เป็นต้น นอกจากนี้ คุณค่าทางโภชนาการของนมผง เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำนมโคสด พบว่า มีคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เนื่องจากในกระบวนการผลิตนมผงอาจทำให้โปรตีนและวิตามินบางส่วน เกิดการสูญสลายหรือหายไป ซึ่งในทางด้านโภชนาการนับว่าไม่รุนแรง เพราะสารอาหารหลักยังคงอยู่ และสารอาหารที่สูญเสียไปสามารถเสริมหรือเติมลงไปทดแทนได้" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

กรมอนามัย ฝ่ากระแสดราม่า รณรงค์ "ทุกเพศทุกวัย…ดื่มนมจืด 2 แก้วทุกวัน"