แสนสิริคาดว่าแนวโน้มธุรกิจในโค้งสุดท้ายของปี (ไตรมาส 4/2568) จะเป็นไตรมาสที่ทำผลงานได้ดี ทั้งในมิติของยอดโอนและยอดรับรู้รายได้ จากแผนการเปิดตัว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมสูงถึง 18,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมียอดขายสะสมของไตรมาส 4 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จากทั้งโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ รวมถึงคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่รวม 7 โครงการ มูลค่ารวม 9,600 ล้านบาท ที่จะเข้ามาเสริมรายได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโครงการในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต ที่มียอดขายเฉลี่ยสูงกว่า 70% แล้ว นอกจากนี้ ยังสามารถทำยอดขายจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดล่าสุดทะลุเป้ากว่า 2,300 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าเรียลดีมานด์ (Real Demand) หรือความต้องการซื้อจริงของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อยังคงมีอยู่อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะเมื่อแสนสิริในฐานะผู้ประกอบการชั้นนำ นำเสนอสินค้าคุณภาพในราคาที่คุ้มค่าพร้อมโปรโมชันที่โดนใจลูกค้า
เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาด แสนสิริจึงได้เดินหน้ากระตุ้นกำลังซื้อในช่วงท้ายปีด้วยการแคมเปญโปรโมชันใหญ่สุดพิเศษ คือ "แสนสิริ อลังเซล" ลดใหญ่ ตัวจริง…แห่งปี ที่มอบส่วนลดสูงสุดถึง 10 ล้านบาท* ครอบคลุมทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม รวมกว่า 109 โครงการ ราคาพิเศษทุกยูนิตเริ่มต้นตั้งแต่ 8.9 แสน - 29.9 ล้านบาท พร้อมข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารพันธมิตรชั้นนำ เช่น ผ่อนต่ำเริ่มต้นเพียงล้านละ 2,500 บาท แคมเปญนี้จัดถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เพื่อให้ทุกคนได้มีบ้านใหม่ต้อนรับปีใหม่ ด้วยข้อเสนอแห่งปี
ทางด้านการกำกับดูแลกิจการ ล่าสุด แสนสิริได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CGR) ปี 2568 ในระดับ "ดีเลิศ" เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ที่ระดับ AAA โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนการทำงานอย่างจริงจังและต่อเนื่องของแสนสิริในด้าน ESG ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ตลอดจนรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนสูงสุดกับผู้ถือหุ้น และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับสังคมและประเทศ