ดร. ชนะ ภูมี นายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) และประธานสภาผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งอาเซียน (ASEAN Federation of Cement Manufacturers: AFCM) เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งอาเซียน ครั้งที่ 46 (The 46th AFCM Council Meeting) นับเป็นครั้งสำคัญในการกำหนดทิศทางความร่วมมือของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในภูมิภาคอาเซียน
เป็นที่น่ายินดีที่ทุกประเทศสมาชิกมีฉันทามติร่วมกัน ประกาศ "2035 AFCM Decarbonization Roadmap" โรดแมปลดคาร์บอน ระดับภูมิภาคฉบับแรกของโลกในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ร่วมกันของสมาชิก AFCM ในการขับเคลื่อนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อย่างเป็นระบบ และยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมภูมิภาคสู่การแข่งขันระดับโลก
"2035 AFCM Decarbonization Roadmap นับเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมระดับภูมิภาค ที่มีเป้าหมายชัดเจน และวางแนวทางร่วมกันลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์อาเซียนไว้อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบความร่วมมือและแนวทางการดำเนินงาน 4 เสาหลัก ครอบคลุม การใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการลดคาร์บอน และการพัฒนาวัสดุศาสตร์ชนิดใหม่ๆ เป็นเข็มทิศนำทาง ให้ทั้ง 8 ประเทศสมาชิก สามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการลดการปล่อยคาร์บอน รวมกว่า 38 ล้านตัน CO2 (เทียบเท่าปลูกไม้พื้นเมืองกว่า 4,000 ล้านต้น) ภายในปี พ.ศ. 2578 (2035) ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนความร่วมมือในระดับภูมิภาค โดยการลด/ยุติการผลิต 'ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์' แบบเดิม ถือเป็นหนึ่งใน Quick Win ที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ทันที แสดงถึงความมุ่งมั่นลงมือทำของสมาชิก AFCM ตามโรดแมป และสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อทั้งเศรษฐกิจและความยั่งยืนของอุตสาหกรรม" ดร. ชนะ กล่าว
นายมนตรี นิธิกุล อุปนายก TCMA และเลขาธิการ AFCM ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกประเทศสมาชิก ขณะเดียวกัน การลดคาร์บอนก็เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นวาระสำคัญของโลก
"การประกาศ 2035 AFCM Decarbonization Roadmap ส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในอาเซียน ที่ผนึกกำลังร่วมมือกันนำอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่สำคัญ ครอบคลุม 1) การผลิต/ ส่งเสริมใช้ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ (Low Carbon Cement) ตามมาตรฐานและข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพ (Performance Base) 2) การเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงทางเลือกและเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) 3) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการลดคาร์บอน (Deep Technology for Decarbonization) จากกระบวนการผลิต และการดักจับ/ใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน CCUS โดยการศึกษาความเป็นไปได้ การมีโครงการนำร่อง และการแบ่งปันความรู้ระหว่างประเทศสมาชิก 4) การพัฒนาวัสดุศาสตร์ที่มีศักยภาพ (New Supplementary Cementitious Materials) เพื่อผลิตปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำชนิดใหม่ เช่น Calcined Clay Cement" นายมนตรี กล่าว
นายนภดล รมยะรูป อุปนายก TCMA และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย สะท้อนภาพการเข้าร่วมประชุมสภาผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งอาเซียน (AFCM) ครั้งที่ 46 จัดขึ้นที่เมืองหลวงของประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ภายใต้แนวคิด Cementing Climate Goals through Innovations หรือ การผสานเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศผ่านนวัตกรรม ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตปูนซีเมนต์ชั้นนำจาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง บรูไน (Heidelberg Materials Butra Sdn) กัมพูชา (Cambodia Cement Manufacturing Association: CCMA) อินโดนีเซีย (Indonesia Cement Association: ICA) มาเลเซีย (The Cement & Concrete Association of Malaysia: C&CA) ฟิลิปปินส์ (Cement Manufacturers Association of the Philippines: CeMAP) สิงคโปร์ (Cement and Concrete Association of Singapore: CNCAS) เวียดนาม (Vietnam National Cement Association: VNCA) และไทย (Thai Cement Manufacturers Association: TCMA)
"การที่ประเทศไทย โดย TCMA ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธาน AFCM และเลขาธิการ AFCM สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในภูมิภาค TCMA ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงความร่วมมือและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์อาเซียนให้เดินไปในทิศทางเดียวกันและสอดคล้องกับทิศทางของโลก และมุ่งผลักดันให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ร่วมกันคิดและลงมือทำ ภายใต้แนวคิด Be Part of the Solutions พร้อมเดินหน้าประสานความร่วมมือ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ขับเคลื่อน 2035 AFCM Decarbonization Roadmap ให้มีความก้าวหน้าและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม"นายนภดล กล่าว
ดร. ชนะ ภูมี ในฐานะประธาน AFCM กล่าวเน้นย้ำว่า "ความสำเร็จของเป้าหมาย 2035 AFCM Decarbonization Roadmap ขึ้นอยู่กับพลังการร่วมลงมือทำ (Collaborative Action) ของทุกประเทศมาชิก ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในแต่ละประเทศ บูรณาพัฒน์การทำงานร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม/ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม (Public-Private-People Partnership) สร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระดับภูมิภาค และเชื่อมโยงกับเครือข่ายระดับโลก พร้อมเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการลงทุนสีเขียวในระดับภูมิภาค เพื่อสร้างคุณค่าร่วม (Collaborative Value) ให้กับ AFCM อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั้งอาเซียน และสามารถก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคต้นแบบลดคาร์บอน"