นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพ ด้วยการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประกอบกับ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ 2025 เพื่อเป็นการรองรับคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่มากกว่า 22,000 คน จาก 11 ประเทศสมาชิกอาเซียน และนักท่องเที่ยว และสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข จึงมอบหมายให้กรมอนามัยจัดทำมาตรฐาน "ที่พัก" หรือ โรงแรมที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (GHH) และมาตรฐาน "ที่เที่ยว" แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (GHA) มีเป้าหมายมีโรงแรมผ่านมาตรฐานโรงแรมที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (GHH) ครอบคลุมทั่วประเทศ ร้อยละ 25 หรือ 1,695 แห่ง และแหล่งท่องเที่ยวผ่านมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (GHA) ครอบคลุม ครบทุก 76 จังหวัด และกรุงเทพฯ อย่างน้อย 200 แห่ง โดยเน้นการส่งเสริมด้านสุขอนามัย เพื่อป้องกันโรคและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่ รวมทั้ง พัฒนาด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่พัก โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ดำเนินกิจการที่ใส่ใจต่อสุขภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัย สร้างความมั่นใจต่อการท่องเที่ยวไทย ส่งเสริมธุรกิจภาคการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า มาตรฐานดังกล่าว กรมอนามัยได้ยกระดับความปลอดภัย สุขอนามัยและมาตรฐานอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่พักและสถานที่ท่องเที่ยว โดยเพิ่มจำนวนครอบคลุมโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ยั่งยืน และบริการด้านการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย รวมทั้ง พัฒนาศักยภาพความเชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับโดยพัฒนาองค์ความรู้ 5 ด้านหลัก ตามมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม GHH และ GHA พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด และอำเภอ ในการเป็นที่ปรึกษา และส่งเสริมพัฒนาโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวเข้าสู่ระบบประเมินรับรองมาตรฐาน GHH และ GHA
นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เกณฑ์มาตรฐานโรงแรมที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เน้นการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม 2 ส่วน ประกอบด้วย 1) การประเมินด้าน GREEN ได้แก่ G : Garbage การจัดการขยะมูลฝอย R : Rest Room การสุขาภิบาลห้องน้ำ E : Energy การประหยัดพลังงาน E : Environment การจัดการสิ่งแวดล้อม และ N : Nutrition อาหารและโภชนาการ 2) การประเมินด้าน Health ได้แก่ การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่ การส่งเสริมสุขภาพให้กับพนักงาน เจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยว สำหรับเกณฑ์มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพิ่มเติม ส่วนที่ 3 ส่วน คือ การประเมินด้านการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อให้โรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค สร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงโรงแรมและแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยมีมาตรฐานสุขภาพและสิ่งแวดล้อมระดับสากล รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://ghh.anamai.moph.go.th/ หรือ สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย โทรศัพท์ 0 2590 4193