NDR โชว์แกร่งกำไร Q3/68 พุ่ง 51.6% หลังคุมต้นทุนอยู่หมัด มั่นใจโค้งสุดท้ายสดใส รับดีมานด์ยางรถจักรยานยนต์คึกคัก

บมจ. เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ NDR โชว์ศักยภาพการบริหารต้นทุน หนุนกำไรไตรมาส 3/68 เติบโตโดดเด่น 51.6% จากปีก่อน พร้อมส่งสัญญาณธุรกิจไตรมาสสุดท้ายฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามความต้องการยางรถจักรยานยนต์ที่เร่งตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่เดินหน้าบริหารต้นทุนและผลักดันยอดขายกลุ่มสินค้าหลักเต็มกำลัง คาดรายได้ปีนี้แตะ 900 - 1,000 ล้านบาท

Wednesday 19 November 2025 14:20
NDR โชว์แกร่งกำไร Q3/68 พุ่ง 51.6% หลังคุมต้นทุนอยู่หมัด มั่นใจโค้งสุดท้ายสดใส รับดีมานด์ยางรถจักรยานยนต์คึกคัก

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 224.25 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 224.37 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อยู่ที่ 5.22 ล้านบาท คิดเป็นเติบโต 51.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3.44 ล้านบาท

อัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ปรับขึ้นจาก 0.28% เป็น 2.33% ซึ่งแม้จะยังไม่สูงมาก แต่ถือเป็นการฟื้นตัวที่มีนัยสำคัญ การพลิกกลับมามีกำไรสุทธิสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสนี้ เป็นสัญญาณว่าบริษัทเริ่มควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น หากสามารถรักษาระดับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และ Gross Margin ในระดับปัจจุบันไว้ได้ บริษัทมีโอกาสกลับเข้าสู่แนวโน้มกำไรที่มั่นคงในระยะถัดไป

นายชัยสิทธิ์ กล่าวเสริมว่า ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มต้นทุนที่ยังคงลดลง

"ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเป็นฤดูกาลขายที่ดีของอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนยอดคำสั่งซื้อให้กลับมาขยายตัว พร้อมเดินหน้าควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างเข้มงวด ทั้งด้านวัตถุดิบและโลจิสติกส์ เพื่อรักษากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม "

นอกจากนี้ NDR ยังเร่งผลักดันการขายสินค้าในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นฐานสำหรับการขยายรายได้ในปีต่อไป โดยบริษัทเชื่อว่าการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์ตลาดเชิงรุก จะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2568 ให้ดีกว่าไตรมาสก่อน และวางฐานที่แข็งแกร่งสำหรับปี 2569

นายชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพ ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง อาจจะล่าช้ากว่าแผนงานไปบ้าง โดยได้เริ่ม Test เครื่องจักรแล้ว และคาดว่าจะ Test เครื่องจักรแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ และน่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนธันวาคมนี้