นายแพทย์อรรถสิทธิ์ แดงมณี ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา กล่าวว่า ทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา ลงพื้นที่เยี่ยมศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมในชุมชนและศูนย์พักพิงชั่วคราว เช่น ควบคุมคุณภาพน้ำใช้ สุขาภิบาลอาหาร จัดการความเสี่ยงจากส้วมสิ่งปฏิกูลมูลฝอย การป้องกันสัตว์แมลงนำโรค และการดูแลส่งเสริมสุขภาพกลุ่มเสี่ยงกลุ่มเปราะบาง เช่น ส่งเสริมการกินนมแม่ เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง และมอบของสนับสนุน น้ำดื่ม ชุดทำความสะอาด และชุดยาสามัญประจำบ้าน ยารักษาน้ำกัดเท้า ในศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดยะลา ซึ่งจังหวัดยะลาได้จัดตั้งศูนย์พักพิง จำนวน 45 แห่ง สำหรับพื้นที่หาดใหญ่ มีการจัดตั้งศูนย์พักพิง จำนวน 17 แห่ง จำนวนผู้อพยพกว่า 8 พันคน ประชาชนที่เข้าพักในศูนย์พักพิงส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง ขอให้ดูแลสุขภาพตนเองเพื่อความปลอดภัย อาทิ ดื่มน้ำสะอาด เก็บอาหารในภาชนะปิดมิดชิด ปรุงสุก หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจเน่าเสียง่าย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะก่อนกินอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังสัมผัสสิ่งปนเปื้อน จัดการขยะ เช่น เศษอาหาร ถุงพลาสติก ให้รวบรวมใส่ถุงปิด และทิ้งในจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนด สวมเสื้อผ้าปกป้องร่างกายในช่วงเวลาเช้า-เย็นที่ยุงชุม หรือใช้ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงตามคำแนะนำ หากพบสัตว์เล็กใหญ่ที่เข้ามาในพื้นที่ ให้ระวังแผลถูกกัดและล้างแผลทันที แจ้งเจ้าหน้าที่หากมีสัตว์กัด สำหรับการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และผู้สูงอายุ ควรเตรียมยาประจำตัวให้เพียงพอ และแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เพื่อนัดส่งต่อหรือรับยาต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงการเดินผ่านน้ำท่วมที่มองไม่เห็นสิ่งกีดขวางหรือไฟฟ้าลัดวงจร สำหรับผู้ที่มีอาการเครียดรุนแรงซึมเศร้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลศูนย์พักพิงทราบทันที