ต่อกันที่เมนูจาก ปลาทูแม่กลอง GI จังหวัดสมุทรสงคราม เนื้อปลาทูมีความละเอียดนุ่มและแน่นมีความหอม รสชาติดี และมีไขมันมาก ช่วงเวลาที่ปลาทูมีคุณภาพดีที่สุด คือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกนำมารังสรรค์เป็นเมนูที่มีรสชาติโดดเด่น ทั้งปลาทูซาเตี๊ยะ (เมนูขึ้นชื่อของอำเภอแม่กลอง ทำจากปลาทูต้มกับสมุนไพรและเครื่องปรุงรส จนเนื้อและก้างนิ่มทานได้ทั้งตัว) ปลาทูนึ่ง และปลาทูสามรส เมนูที่ได้รับความนิยมและขายดีที่สุด คือ ปลาทูสามรส ด้วยรสชาติที่หอมละมุนจากไขมันที่แทรกในเนื้อปลาที่แน่น ผสานกับการปรุงรสที่กลมกล่อมลงตัว ทำให้ปลาทูแม่กลองสามารถกวาดรายได้รวมในงานนี้ไปได้สูงกว่า 3.3 แสนบาท ตามด้วยเมนูจาก ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง GI จังหวัดนครศรีธรรมราช โดดเด่นด้วยเนื้อส้มโอสีชมพูเข้มคล้ายสีทับทิม มีรสชาติหวานหอม เนื้อแน่นไม่แฉะน้ำ ถูกนำสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารคาวหวานร่วมสมัย ได้แก่ ยำส้มโอ และชีสพายส้มโอ เมนูที่ได้รับความนิยมและขายดีที่สุด คือ ยำส้มโอ เมนูอร่อยที่น่าลิ้มลอง ด้วยน้ำยำรสจัดจ้านที่ผสมผสานกับความหวานของเนื้อส้มโอได้อย่างลงตัว โดยในงานนี้ ส้มโอทับทิมสยามปากพนังสามารถกวาดรายได้รวมกว่า 1.2 แสนบาท ปิดท้ายด้วยเมนูจาก มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว GI จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อมะพร้าวเหนียวนุ่ม น้ำมะพร้าวรสชาติหวาน พร้อมกลิ่นหอมคล้ายใบเตย ถูกนำมารังสรรค์เป็นเมนูยอดนิยม ทั้งพุดดิ้งมะพร้าวอ่อน ทองม้วนไส้มะพร้าว และน้ำมะพร้าว เมนูที่ได้รับความนิยมและขายดีที่สุด คือ น้ำมะพร้าว และ พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน โดยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ส่งผลต่อรสชาติของน้ำมะพร้าวโดยตรง โดยมีความหวานหอมอร่อยเป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำมาทำเมนูพุดดิ้งมะพร้าวอ่อนก็จะมีความหวานละมุนของมะพร้าวตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใส่น้ำตาลหรือสารเพิ่มความหวานอีก ทั้งนี้ มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้วสามารถทำรายได้ในงานไปได้กว่า1.5 แสนบาท ความสำเร็จของกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาดสินค้า GI อย่างครบวงจรที่กรมเร่งดำเนินการ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสเสน่ห์และคุณภาพของสินค้า GI ช่วยสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Winของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางศุภจี สุธรรมพันธุ์) ที่ให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งผู้ประกอบการไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว โดยสินค้า GI คุณภาพทั้ง 4 รายการที่นำมาจัดจำหน่ายในงานแจ๋ว แซ่บ เฟ่อร์ ครั้งนี้ ล้วนเป็นสินค้าเศรษฐกิจที่สามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ชุมชนรวมกว่า 11,571 ล้านบาทต่อปี อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวทิ้งท้าย